Friday, December 21, 2018

Digital Marketing

Digital Marketing หรือ การตลาดออนไลน์ จะช่วยธุรกิจร้านอาหารได้อย่างไร?

Digital Marketing การตลาดออนไลน์
คุณอย่ามองว่า ธุรกิจร้านอาหาร ขายได้แต่ออฟไลน์ ใช่ว่าในโลกออนไลน์จะไม่มีลูกค้าของคุณอยู่ คุณสามารถดึงพวกคนเหล่านั้นมาเป็นลูกค้าของคุณได้เหมือนกัน เพราะคนในปัจจุบันขอเพียงแค่คุณทำให้พวกเขารู้จัก ดูแล้วมีอาหารที่น่าสนใจ ไกลแค่ไหน เขาก็จะมาหาคุณ การตลาดออนไลน์ก็เปรียบเหมือนสิ่งที่จะมาช่วยเพิ่มกลิ่นให้กับรสชาติอาหารของคุณ ให้คนได้เชยชมกลิ่นของมัน ยั่วยวนชวนให้น่าลิ้มลองนั่นเอง

ทำให้เจ้าของ ธุรกิจร้านอาหาร หลายเจ้า ต่างมองหา Social Media ที่ยอดนิยมในไทย อย่าง Facebook, Instagram, Line มาใช้เป็นช่องทางในการปล่อยสื่อโฆษณา โดยจะเป็นการทำการตลาดในรูปแบบ Outbound Marketing โดยเน้นการส่งสื่อโฆษณาไปหาผู้รับสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ดึงดูดให้คนมาที่ร้านของเราให้ได้

แล้ว Social Medais จะช่วย ธุรกิจร้านอาหาร ได้อย่างไร?

ธุรกิจร้านอาหาร

Instagram

ถือว่าเป็น Social Media ที่ถูกทำมาเพื่อโชว์รูปภาพและวิดีโอโดยเฉพาะ เน้นถ่ายรูปอาหารใน Mood & Tone ที่ดูแล้วน่าสนใจ ดูแล้วน่ารับประทาน เรียกได้ว่าIG เหมาะกับธุรกิจที่เน้นการโชว์รูปภาพสินค้า อย่าง ร้านอาหาร เพราะทุกครั้งที่โพสต์ก็เหมือนกับการได้โชว์เมนูที่น่าสนใจของทางร้านไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาดูเมนูได้

Facebook

ก็ขายด้วยรูปได้เหมือนกัน อีกทั้งสามารถยังนำเสนอในรูปแบบของอัลบั้มที่ดูง่าย หรือมีวิดีโอสั้นๆ ไว้รีวิว พร้อมกับถ้าหากมีงบที่มากพอก็อาจจะจ้าง Influencer มาช่วยประชาสัมพันธ์อีกแรงได้เหมือนกัน คนมักจะเชื่อคนพูดด้วยกันเองมากกว่าแบรนด์พูด

Line

อย่าง Line ก็สามารถทำคลิปสั้นๆ เพื่อโปรโมตร้านหรือเมนูอาหารที่น่าสนใจได้ หรือจะใช้ Broadcast Line@ ที่เอาไว้ส่งข้อความหาคนที่ Followers ด้วยโปรโมชั่นหรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อให้เขากลับมาทานอาหารที่ร้านอีกครั้ง

โดยสรุปแล้วการทำ Digital Marketing ดีอย่างไร

Digital Marketing
ช่วยทำให้คุณสามารถเข้ากลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น สามารถ Target Audience ตาม Objective ที่วางตามแผนการตลาด สามารถเก็บข้อมูล เพื่อต่อยอดในการทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ สามารถทำการตลาดกลับเข้าไป Remind คนที่มีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าของคุณได้อีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างกับการตลาดแบบออฟไลน์ที่คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าโฆษณาที่คุณส่งไปตรงกับเป้าหมายที่มีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าหรือเปล่า ดังนั้น การมีข้อมูลย่อมดีกว่าการไม่มีข้อมูล” นั่นเอง

No comments:

Post a Comment