Friday, February 22, 2019

MARKETING 4.0 การตลาดแห่งยุค


MARKETING 4.0 

เห็นจั่วหัวมาด้วยเลข 4.0 แบบนี้ เชื่อว่าต้องมีใครหลายคนนึกไปถึงคำว่า ไทยแลนด์ 4.0 กันบ้างแน่ๆ ซึ่งก็ต้องบอกว่าช่วงหลังมานี้เราได้ยินทั้งคำ 2 คำนี้กันบ่อยขึ้น ฟังแล้วก็ดูคล้ายๆ กัน น่าจะมีความเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า? มาเริ่มทำความเข้าใจกันทีละประเด็น
ไทยแลนด์ 4.0 (Thailand 4.0) คือ โมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย โดยรัฐบาลไทย ซึ่งจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาระบบเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ทั้งภาคอุตสาหกรรมที่จะหันมาใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้มากขึ้น รวมถึงการผลิตสินค้าที่เป็นเชิงนวัตกรรมเองด้วย
ส่วน การตลาด 4.0 (Marketing 4.0) นั้น เป็นคำที่โด่งดังมาจากหนังสือ Marketing 4.0 ของ Philip Kotler ซึ่งกล่าวถึงการทำการตลาดในลักษณะที่ใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วย เพื่อเพิ่มช่องทางในการขาย, เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแบรนด์, เพิ่มยอดขาย และเพื่อประโยชน์ต่างๆ ได้อีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งในส่วนนี้จะเห็นว่าแนวคิดของทั้ง 2 คำนี้ดูจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีจุดร่วมคือ การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมให้มากขึ้น
สำหรับการประยุกต์ใช้การตลาด 4.0 แบบง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ (และควรทำด้วย) ก็คือการใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำ 3 สิ่งดังต่อไปนี้
  • มีหน้าร้านค้าออนไลน์ ควบคู่ไปกับหน้าร้านปกติ สร้างความเชื่อมโยงของทั้งสองเข้าด้วยกันผ่านกิจกรรมต่างๆ หรือช่วยอำนวยความสะดวกในหน้าร้านจริง เช่น การหาข้อมูลและตำแหน่งของสินค้าในหน้าร้านจริงผ่านทางแอปพลิเคชั่น สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ทั้งยังเป็นการส่งเสริมซึ่งกันและกันระหว่างร้านออนไลน์กับร้านค้าจริงๆ
  • นำเสนอสินค้าทางออนไลน์ คำนี้อาจไม่ได้หมายถึงการมีหน้าร้านค้าออนไลน์เท่านั้น แต่หมายถึงช่องทางออนไลน์ทุกรูปแบบ ทั้งในเสิร์ชเอ็นจิ้น อย่างการทำให้ลูกค้าเสิร์ชหาแล้วเจอข้อมูลสินค้าของแบรนด์คุณ โดยผลการค้นหาที่ขึ้นมานั้นอาจจะไม่ได้มาจากหน้าเว็บไซต์หรือแฟนเพจของแบรนด์โดยตรงก็ได้ แต่ได้มาจากการรีวิว การใช้ Influencer ก็ได้
  • เปิดช่องทางแสดงความคิดเห็น เพราะการโฆษณาไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของผู้บริโภคในปัจจุบันอีกต่อไป การรีวิวจากู้ใช้งานจริงจึงสำคัญมาก รวมถึงพลังองการ “บอกต่อ” นี่แหละ ที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้าของเรา นอกจากนี้ความคิดเห็นต่างๆ ที่เกิดขึ้นยังจะช่วยในการพัฒนาปรับปรุงแบรนด์หรือสินค้าของเราให้ถูกใจผู้บริโภคได้อีกด้วย
นอกเหนือจากเรื่องของการใช้เทคโนโลยีแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยก็คือ “กลยุทธ์” เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ไม่หยุดนิ่ง การตลาดเองก็เช่นกัน ถ้าไม่มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์กันบ้างเลยมันจะเป็นการตลาด 4.0 ไปได้อย่างไร เราจึงขอทิ้งท้ายเอาไว้ด้วย “กลยุทธ์ 5A” จากหนังสือ Marketing 4.0
  1. Aware การทำให้ลูกค้ารู้จักกับสินค้า หรือแบรนด์ของเรา
  2. Appeal คือการดึงดูดความสนใจจากลูกค้า ทำอย่างไรให้เราเข้าไปเป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ จากคู่แข่งจำนวนมากมาย
  3. Ask เมื่อลูกค้าให้ความสนใจแล้ว ต่อมาก็คือการซักถามถึงข้อมูล รายละเอียดต่างๆ ของสินค้า หรือการค้นหาข้อมูล รีวิวจากการใช้งานจริง
  4. Act หลังจากการรับรู้ สนใจ ซักถาม แล้วล่ะก็ ในกรณีที่คุณทำให้ลูกค้าพึงพอใจในตัวสินค้าได้การตัดสินใจซื้อก็จะเกิดตามมา
  5. Advocate คือการบอกต่อ อันเกิดจากการที่ลูกค้าใช้งานสินค้าแล้วเกิดความประทับใจหรือไม่ประทับใจก็ได้ ลูกค้าสามารถบอกต่อได้ทั้งหมด แต่จะเป็นแง่ดีหรือร้ายก็แล้วแต่ประสบการณ์ที่ลูกค้าได้รับมา พลังแห่งการบอกต่อนี้สำคัญมากและส่งผลกระทบต่อแบรนด์ได้มากอย่างที่คุณอาจคาดไม่ถึงเลย และเป็นข้อที่ทำให้นักการตลาดควรตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่าไม่ใช่แค่เทคโนโลยีเท่านั้นที่มีความสำคัญต่อการตลาด 0 แต่ยังมีเรื่องของ “ผู้คน” ด้วย

เพราะพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้คนในทุกวันนี้เปลี่ยนไปแล้ว ก็คงถึงเวลาที่คุณต้องถามตัวเองแล้วว่าแบรนด์ของเราล่ะ มีสิ่งที่เรียกว่า การตลาด 4.0 รองรับกันเอาไว้แล้วหรือยัง เพราะแค่การตลาดอย่างเดียวคงไม่สามารถลงสนามเข้าแข่งขันได้อีกต่อไปแล้ว

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

No comments:

Post a Comment