Friday, August 31, 2018

เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน


เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน

      โลกพัฒนาไปพร้อมๆ กับการเปลี่ยนแปลงของวันเวลา เมื่อมนุษย์ไม่ชอบการย่ำอยู่กับที่ การพัฒนาในด้านต่างๆ จึงเกิดขึ้น โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอในทุกด้าน หลังจากการเปลี่ยนแปลงนั้นสิ่งที่เราได้รับก็คือความก้าวล้ำทันสมัย มนุษย์จึงต้องเปิดสมองรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อเป็นการพัฒนาตนเองและการอยู่ร่วมกันในสังคมกับคนอื่นๆ



      เทคโนโลยีจึงเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน แฝงตัวเข้าอยู่ในทุกกิจกรรมของเรา กลายเป็นว่าเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราทุกคนและเป็นส่วนประกอบให้สังคมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น อำนวยความสะดวกให้กับเราด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น คอมพิวเตอร์ เริ่มมีการใช้มากขึ้นในการทำงาน เพราะสามารถจดจำข้อมูลได้เยอะและรวดเร็ว ทำงานได้ตลอดเวลา ลดปริมาณแรงงานของคนได้ 
ตัวอย่างประโยชน์เด่นๆ ที่พบเห็นจากเทคโนโลยี เช่น 
             เรื่องการศึกษา สามารถทำให้คนที่อยู่ทางไกลได้รับการศึกษา โดยผ่านดาวเทียม และการผ่านสื่ออินเทอร์เน็ตต่างๆ ส่วนคนที่อยู่ในเมืองหรือสามารถรับข้อมูลเหล่านี้ได้ง่ายก็ทำให้ได้รับความสะดวกเพิ่มขึ้นในการเรียนรู้ และการสืบค้นข้อมูลในการศึกษามากขึ้น หลายคนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีต่อยอดความรู้ความสามารถให้กับตนเอง
            เรื่องการพาณิชย์ เช่น การฝากเงิน เบิกถอนเงิน โอนเงิน ผ่านตู้ATM มีความรวดเร็วมากขึ้นเพียงแค่ปลายนิ้ว แตกต่างจากอดีตที่เทคโนโลยียังไม่อำนวยความสะดวกต่อเราเท่านี้มาก่อน อีกทั้งการซื้อขายออนไลน์ที่กำลังพลิกผันเศรษฐกิจและสังคมไทยอยู่ในขณะนี้ด้วยเช่นกัน 
           เรื่องการสื่อสาร เช่น การสื่อสารผ่านวิทยุ โทรศัพท์ โทรศัพท์ เคเบิล หรือ แม้แต่อุปกรณ์การเล่น Social ต่างๆ ที่เราใช้กันอยู่ในทุกวัน ก็มาจากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้คนในสังคมสามารถเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว 



      สิ่งเหล่านี้เองที่อำนวยความสะดวกให้เราจนกลายเป็นส่วนหนึ่งแบบไม่รู้ตัวไปแล้ว ดังนั้นเมื่อพบว่าชีวิตมีความสัมพันธ์กับเทคโนโลยี การเลือกใช้งานให้เกิดประโยชน์และโทษก็มีมากเช่นกัน ควรไตร่ตรองและเท่าทันความทันสมัยอย่าให้สิ่งเหล่านั้นครอบงำ ควรมีสติในการใช้งานและอยู่ร่วมกับเทคโนโลยี

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้


Tuesday, August 28, 2018

คุณต้องใช้ SEO มั้ย ?


SEO เป็นตัวย่อของ “การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา" หรือ "โปรแกรมปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา” การตัดสินใจทำ SEO เป็นการตัดสินใจที่สำคัญที่สามารถปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณและช่วยประหยัดเวลา แต่คุณยังอาจทำให้เว็บไซต์ของคุณเสียหายหรือเสื่อมเสียชื่อเสียงได้ โปรดอย่าลืมหาข้อมูลผลประโยชน์ที่เป็นไปได้ พร้อมทั้งผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับไซต์ของคุณจาก SEO ที่ไม่น่าเชื่อถือ SEO จำนวนมาก รวมทั้งตัวแทนและที่ปรึกษาอื่นๆ ได้นำเสนอบริการที่มีประโยชน์สำหรับเจ้าของเว็บไซต์ ดังนี้
  • ตรวจสอบเนื้อหาหรือโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณ
  • การให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิคเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น การให้บริการพื้นที่ การเปลี่ยนทิศทาง หน้าแสดงข้อผิดพลาด และการใช้ JavaScript
  • การพัฒนาเนื้อหา
  • การจัดการแคมเปญการพัฒนาธุรกิจออนไลน์
  • การวิจัยคำหลัก
  • การฝึกอบรม SEO
  • ความเชี่ยวชาญในตลาดและภูมิศาสตร์เฉพาะ
โปรดทราบว่าหน้าผลการค้นหาของ Google จะมีทั้งโฆษณาที่มีการชำระเงินและผลการค้นหาแบบปกติที่มีการไม่ชำระเงิน (ระบุที่หัวเรื่องว่า "โฆษณา" หรือ "ผู้สนับสนุน") การโฆษณากับ Google ไม่มีผลใดๆ กับการแสดงเว็บไซต์ของคุณในผลการค้นหาของเรา Google ไม่รับเงินเพื่อรวมหรือจัดอันดับเว็บไซต์ในผลการค้นหาของเราและการแสดงในผลการค้นหาแบบปกติจะไม่มีการคิดค่าใช้จ่าย ทรัพยากรฟรี เช่น Search Console, บล็อกส่วนกลางของผู้ดูแลเว็บอย่างเป็นทางการ และฟอรัมแลกเปลี่ยนความเห็นของเรา สามารถให้ข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับวิธีเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์สำหรับการค้นหาทั่วไป
ก่อนที่จะเริ่มต้นการค้นหาสำหรับ SEO คุณควรจะได้รับการฝึกอบรมและทำความคุ้นเคยกับวิธีการทำงานของเครื่องมือค้นหาก่อน เราขอแนะนำให้เริ่มต้นที่นี่
  • หลักเกณฑ์สำหรับผู้ดูแลเว็บ Google
  • Google 101: Google รวบรวมข้อมูล จัดทำดัชนี และแสดงเว็บอย่างไร
หากคุณกำลังคิดที่จะว่าจ้างบริษัท SEO ดำเนินการยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น เวลาที่ดีที่สุดในการเช่าคือ เมื่อคุณตัดสินใจที่จะออกแบบไซต์ใหม่ หรือวางแผนที่จะสร้างไซต์ใหม่ ด้วยวิธีนี้ คุณและ SEO ของคุณจะสามารถมั่นใจได้ว่าเว็บไซต์ของคุณจะได้รับการออกแบบให้ใช้งานร่วมกับเครื่องมือค้นหาได้ง่ายตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ตาม SEO ที่ดีจะสามารถช่วยปรับปรุงไซต์ที่มีอยู่ได้
คำถามที่มีประโยชน์จำนวนหนึ่งของ SEO มีดังนี้
  • คุณสามารถแสดงตัวอย่างผลงานชิ้นก่อนหน้าและแบ่งปันเรื่องราวของความสำเร็จของคุณได้ไหม
  • คุณปฏิบัติตามหลักเกณฑ์สำหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google ไหม
  • คุณให้บริการหรือคำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์เพื่อเสริมธุรกิจการค้นหาทั่วไปของคุณไหม
  • คุณคาดหวังว่าจะได้ผลลัพธ์แบบใด และในกรอบเวลาใด คุณวัดความสำเร็จของคุณได้อย่างไร
  • ประสบการณ์ของคุณที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของฉันมีอะไรบ้าง
  • ประสบการณ์ของคุณที่เกี่ยวข้องกับประเทศ/เมืองของฉันมีอะไรบ้าง
  • คุณมีประสบการณ์อะไรบ้างในการพัฒนาเว็บไซต์ระดับนานาชาติ
  • เทคนิค SEO ที่สำคัญที่สุดของคุณคืออะไร
  • คุณอยู่ในธุรกิจมานานเท่าไร
  • ฉันจะสามารถติดต่อคุณได้อย่างไร คุณจะแชร์การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่คุณทำกับไซต์ของฉันและให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับคำแนะนำและเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงกับฉันไหม

ในขณะที่ SEO จำนวนหนึ่งสามารถให้บริการที่มีคุณค่าแก่ลูกค้า SEO บางแห่งที่ไม่ได้มาตรฐานกลับสร้างจุดด่างพร้อยให้กับธุรกิจนี้ด้วยการทำตลาดในเชิงรุกมากเกินไป และการพยายามควบคุมผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาโดยมิชอบ การกระทำที่เป็นการละเมิดหลักเกณฑ์ของเราอาจทำให้มีการแสดงผลในเชิงลบกับไซต์ของคุณใน Google หรือแม้แต่การลบไซต์ของคุณออกจากดัชนีของ Google โปรดคำถึงถึงรายละเอียดต่อไปนี้
อุบายทั่วไปอย่างหนึ่งคือการสร้างโดเมน “เงา” ซึ่งนำผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์โดยใช้การเปลี่ยนเส้นทางที่หลอกลวง โดเมนเงาเหล่านี้มักจะเป็นของ SEO ซึ่งกล่าวอ้างว่าทำงานในนามของลูกค้า อย่างไรก็ตาม หากความสัมพันธ์เกิดบาดหมาง SEO อาจชี้โดเมนนั้นไปยังเว็บไซต์อื่น หรือแม้กระทั่งโดเมนของคู่แข่ง ในกรณีนี้ ลูกค้าเป็นผู้จ่ายเงินเพื่อพัฒนาเว็บไซต์คู่แข่งซึ่งเป็นของ SEO อย่างแท้จริง
การกระทำผิดอีกอย่างคือการวางหน้า “Doorway” ที่เต็มไปด้วยคำหลักไว้ที่ใดที่หนึ่งในเว็บไซต์ของลูกค้า SEO สัญญาว่าการทำเช่นนี้จะทำให้หน้าเว็บมีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหามากขึ้น แต่การทำเช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิด เนื่องจากหน้าเว็บแต่ละหน้ามีความเกี่ยวข้องน้อยมากกับคำหลักในขอบเขตที่กว้าง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่หลอกลวงยิ่งกว่านี้ก็คือหน้า Doorway เหล่านี้มักจะมีลิงก์ที่ซ่อนตัวอยู่ที่ไปยังลูกค้ารายอื่นของ SEO นั้นด้วยเช่นกัน หน้าดอร์เวย์ดังกล่าวจะลดความนิยมของลิงก์ในเว็บไซต์ และไปเพิ่มความนิยมให้กับ SEO และลูกค้ารายอื่น ซึ่งอาจรวมถึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาลามกหรือผิดกฎหมาย
หากคุณรู้สึกว่าถูก SEO หลอกลวงด้วยวิธีการอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณอาจต้องรายงาน SEO นั้น
ในสหรัฐอเมริกา Federal Trade Commission (FTC) จะจัดการกับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมทางธุรกิจที่หลอกลวงหรือไม่เป็นธรรม หากต้องการร้องเรียน โปรดไปที่ http://www.ftc.gov/ และคลิก "ยื่นเรื่องร้องเรียนออนไลน์", โทรมาที่ 1-877-FTC-HELP หรือส่งจดหมายมาที่
Federal Trade Commission
CRC-240
Washington, D.C. 20580
หากการร้องเรียนของคุณเกี่ยวกับบริษัทในประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่สหรัฐอเมริกา โปรดส่งการร้องเรียนได้ที่ http://www.econsumer.gov/
  • โปรดระมัดระวังบริษัท SEO และที่ปรึกษาหรือตัวแทนเกี่ยวกับเว็บซึ่งส่งอีเมลให้คุณอย่างไม่ได้คาดหมาย
    น่าแปลกที่เราก็ได้รับอีเมลขยะเหล่านี้ด้วย ดังนี้
    "เรียน google.com
    เราได้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณและสังเกตเห็นว่า คุณไม่ได้อยู่ในรายชื่อของเครื่องมือค้นหาและไดเรกทอรีที่สำคัญส่วนใหญ่..."
    ให้สงสัยอีเมลเกี่ยวกับเครื่องมือค้นหาที่คุณไม่ได้เรียกร้องแบบเดียวกับที่คุณสงสัยยาลดน้ำหนัก "เผาผลาญไขมันตอนกลางคืน" หรือคำขอให้ช่วยโอนเงินจากผู้เผด็จการที่ถูกเนรเทศ
  • ไม่มีใครสามารถรับประกันว่าจะได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 1 ใน Google ได้
    ระวัง SEO ที่อ้างว่าสามารถรับประกันการจัดอันดับ ยืนยัน "ความสัมพันธ์พิเศษ" กับ Google หรือโฆษณา "การส่งที่ได้สิทธิ์พิเศษ" ไปถึง Google ก่อน ไม่มีการส่งที่ได้สิทธิ์พิเศษสำหรับ Google แท้จริงแล้ว วิธีเดียวที่จะส่งเว็บไซต์ให้ Google โดยตรงคือการส่งผ่านหน้าเพิ่ม URL หรือโดยการส่งแผนผังไซต์ และคุณสามารถทำเช่นนี้ได้ด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
  • โปรดระมัดระวังในกรณีที่บริษัทมีการปิดบังซ่อนเร้นหรือไม่อธิบายถึงสิ่งที่ตั้งใจจะทำ
    ขอคำชี้แจงหากมีสิ่งใดไม่ชัดเจน หาก SEO สร้างเนื้อหาที่หลอกลวงหรือก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในนามของคุณ เช่น หน้า Doorway หรือโดเมน "ใช้แล้วทิ้ง" เว็บไซต์ของคุณอาจถูกลบออกจากดัชนีของ Google โดยสิ้นเชิง สุดท้าย คุณเป็นผู้รับผิดชอบการกระทำของบริษัทใดๆ ที่คุณจ้าง ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องทราบอย่างแน่ชัดว่าบริษัทเหล่านั้นมีเจตนาจะ “ช่วยเหลือ” คุณอย่างไร หาก SEO มีการเข้าถึง FTP ไปยังเซิร์ฟเวอร์ของคุณ SEO เหล่านั้นต้องสามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ทำต่อไซต์ของคุณ
  • คุณไม่ควรต้องลิงก์ไปยัง SEO เลย
    หลีกเลี่ยง SEO ที่กล่าวถึงความสามารถของลิงก์แบบ “ฟรีทั้งหมด” รูปแบบสร้างความนิยมของลิงก์ หรือการส่งเว็บไซต์ของคุณไปยังเครื่องมือค้นหาหลายพันแห่ง โดยทั่วไปสิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์ ซึ่งไม่ส่งผลต่อการจัดอันดับของคุณในผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหาส่วนใหญ่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่ใช่ในทางที่คุณน่าจะพิจารณาว่าเป็นผลดี
  • เลือกอย่างชาญฉลาด
    ขณะที่คุณกำลังพิจารณาว่าจะใช้ SEO หรือไม่ คุณอาจต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธุรกิจนี้ แน่นอนว่า Google เป็นวิธีการหนึ่งในการทำเช่นนั้น คุณยังสามารถอ่านเรื่องราวเตือนภัยที่ปรากฏในสื่อ ซึ่งรวมถึงบทความเกี่ยวกับ SEO ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วได้ที่ http://seattletimes.nwsource.com/html/businesstechnology/2002002970_nwbizbriefs12.htmlแม้ว่า Google จะไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบริษัทใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ เราได้พบกับบริษัทต่างๆ ที่เรียกตนเองว่าเป็น SEO และมีระเบียบปฏิบัติที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าขัดต่อการดำเนินธุรกิจที่เป็นที่ยอมรับ ดังนั้นโปรดใช้ความระมัดระวัง
  • ต้องเข้าใจว่าใช้จ่ายเงินไปกับส่วนใดบ้าง

  • ขณะที่ Google ไม่เคยขายการจัดอันดับที่ดีกว่าในผลการค้นหาของเรา แต่เครื่องมือค้นหาอื่นๆ หลายแห่งกลับรวมผลลัพธ์แบบจ่ายต่อคลิก หรือจ่ายสำหรับการรวมเข้ากับผลการค้นหาบนเว็บแบบปกติของตน SEO บางแห่งจะสัญญาว่าจะให้คุณมีการจัดอันดับที่สูงในเครื่องมือค้นหาต่างๆ แต่กลับวางคุณไว้ในส่วนโฆษณาแทนที่จะเป็นผลการค้นหา SEO จำนวนไม่มากจะทำกระทั่งการเปลี่ยนราคาประมูลของตนแบบเรียลไทม์เพื่อสร้างความเข้าใจผิดว่า SEO เหล่านั้น “ควบคุม” เครื่องมือค้นหาอื่นๆ และสามารถวางตนเองไว้ในตำแหน่งที่ต้องการได้ อุบายเช่นนี้ใช้ไม่ได้ผลกับ Google เนื่องจากการโฆษณาของเรามีการทำเครื่องหมายกำกับไว้อย่างชัดเจน และแยกออกจากผลการค้นหาของเรา แต่ให้แน่ใจว่าคุณได้สอบถาม SEO ใดๆ ที่คุณกำลังพิจารณาอยู่ว่าค่าบริการใดสำหรับการรวมอย่างถาวร และค่าบริการใดสำหรับการโฆษณาชั่วคราว
  • เจ้าของเว็บไซต์มีแนวโน้มที่จะพบการละเมิดแบบใดบ่อยที่สุด
  • มีสิ่งใดอีกบ้างที่ควรระวัง
    มีสัญญาณเตือนมากมายที่คุณบ่งบอกว่าคุณอาจกำลังเจอกับ SEO ทุจริต ซึ่งไม่สามารถแสดงในรายการได้อย่างครอบคลุม ดังนั้นหากมีข้อสงสัย คุณควรเชื่อใจสัญชาตญาณของตัวเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรดหลีกเลี่ยง SEO ที่มีลักษณะดังนี้
    • บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

เทคนิค VS Contents อะไรคือคำตอบของ SEO ?


ถ้าพูดถึงบทความเรื่อง SEO (Search Engine Optimization) แล้ว ที่จริงเป็นเรื่องที่ผมอยากจะเขียนมานานแล้ว แต่ก็ไม่มีโอกาสได้เขียนซักที ที่อยากเขียนเพราะมันเป็นเรื่องที่เขียนกันมาหลายยุคหลายสมัย แต่ก็ไม่เคยเก่า เวลาเข้าไปค้นหาใน Google แล้ว เรียกได้ว่า แทบจะล้น Search Engine กันเลย มีทั้งหลักการ ทั้งวิธีการ ทั้งเทคนิคสารพัด ทั้งขายบริการทำ SEO ก็ล้นตลาดไปหมด มีเยอะซะจนไม่รู้ผมจะเขียนอะไรอีกแล้ว
แต่เมื่อเวลายิ่งผ่านไป ผมก็เริ่มเห็นหลายคนที่ทำการตลาดออนไลน์ และกำลังร้อนวิชา ด้วยว่าไปเรียนเทคนิคอะไรมาก็แล้วแต่ และเริ่มหลงตนเองไปกับเทคนิคเหล่านั้นว่า...ข้านี่แหละเจ๋งสุด เรื่อง SEO เทคนิคล้ำเลิศ วิชาตัวเบาเหนือใคร กระโดดทีเดียว ขึ้นอันดับหน้าแรก Google ได้ในเวลาอันรวดเร็ว... แต่ตอนท้ายกลับไม่ได้บอกไว้ด้วยว่า... แล้วข้าก็ตกลงมาคอหักตาย ในเวลาอันรวดเร็วด้วยเหมือนกัน...

องค์ประกอบหลักๆของ SEO


จริงๆ แล้วการทำ SEO (Search Engine Optimization) เป็นกระบวนการที่เริ่มตั้งแต่ก่อนจะสร้างเว็บไซต์เสียด้วยซ้ำ เพราะมันต้องประกอบไปด้วยหลายส่วน ทั้ง On-Page SEO , Off-Page SEO , Content , Context ซึ่งเราต้องเตรียมให้พร้อมตั้งแต่ตอนสร้างเว็บเลย ไม่ใช่มาคิดทำ หลังจากมีเว็บไซต์แล้ว และทุกครั้งที่ผมจะเริ่มสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาซักเว็บนึง ผมก็จะเริ่มทำ SEO ไปด้วยพร้อมกันในตัวอยู่แล้วครับ
On-Page SEO คือ การทำเว็บให้ถูกต้องในส่วนที่เป็น HTML tag ทั้งหมด รวมถึง Content หลักๆ ด้วย ซึ่งหมายความว่า ต้องทำในขณะกำลังสร้างเว็บไซต์... เมื่อได้เว็บไซต์มาแล้ว จึงค่อยทำ Off-Page SEO เพื่อเรียก Traffic เข้าเว็บ ไม่ว่าจะใช้วิธี Social Networking, Social Bookmarking, PPC, Social Ads, Forum, Article Submission, Link Exchange,... บลา บลา บลา ฯลฯ ซึ่งเราจะเห็นได้ในบทความ SEO กันเต็มพรืดไปหมด... แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องมาจบอยู่ที่ Content ในเว็บไซต์อยู่ดี ดังที่ Bill Gates ได้กล่าวไว้ว่า "Content is King" ครับ

Content is King ยังหัวใจสำคัญของ SEO เป็นจริงอยู่มั้ย?


มีหลายคน อาจจะตั้งข้อสงสัยว่า ทุกวันนี้ประโยคที่ว่า "Content is King" ยังคงเป็นจริงอยู่มั้ย แต่เท่าที่ผมเห็นด้วยตา และรับรู้จากประสบการณ์จริง คือ ถ้าเว็บไหน บล็อกไหน หรือแม้แต่ Facebook Page ไหนก็ตาม ทำอันดับ SEO ได้ดี คือติด Google หน้าแรก ไม่ว่าจะด้วยวิธีธรรมชาติ หรือ สายดำ จะด้วยเทคนิคขั้นเทพ หรือจะเล่นทริกอะไรก็แล้วแต่ เมื่อผม Search เจอ ผมอาจจะเผลอคลิกเข้าไปดูจริงครับ แต่พอได้อ่าน Content แล้ว ถ้ามันไม่ได้ประโยชน์อะไร หรือเป็น Content ขยะ ผมก็จะเลิกเข้าเว็บนั้นอีก ซึ่งเท่ากับว่า คนทำเว็บนั้น ก็เสียเวลา เสียแรง หรืออาจจะเสียเงินทำ SEO ไปเปล่าๆ เพราะไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรให้ผู้เยี่ยมชมเว็บเลย
สำหรับผมแล้ว "Content is King" นั้นยังเป็นจริงอยู่เสมอ และการที่เรามีเทคนิคที่ดี ก็จำเป็นเช่นกันครับ เพราะถ้าแข่งขันกันด้วย Content อย่างเดียว ถ้าเจอคู่แข่งที่เขียน Content ออกมาได้ดีพอๆ กัน หรือดีกว่า ก็คงยากจะเอาชนะ จึงจำเป็นต้องใช้เทคนิคเข้ามาช่วย เพื่อส่งเสริม Content ที่ดีของเรา และควรปรับปรุง Content ของเราให้ดีขึ้นเรื่อยๆ จึงจะดีที่สุดครับ
บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้


Digital Marketing นั้นคืออะไร

Digital Marketing คืออะไร


เมื่อดิจิตอลครองโลก
ดิจิตอล คำนี้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคำยอดนิยมในปัจจุบัน เหตุผลเป็นเพราะว่าในประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงครั้งของระบบทีวีหรือโทรศัพท์ในบ้านเรา จากระบบอนาล็อก สู่ดิจิตอล และคำอธิบายง่ายๆ ของสองคำนี้ ก็คือ ระบบทีวีแบบดิจิตอลให้ภาพคมชัดกว่า ระบบอนาล็อก และที่สำคัญเมื่อระบบทีวีเปลี่ยนไปเป็นระบบดิจิตอล เราสามารถที่จะสื่อสารแบบเรียลไทม์ สื่อสารในรูปแบบที่สามารถโต้ตอบกันได้อย่างสะดวกมากขึ้นในอนาคต

Digital Marketing มาจากคำ 2 คำ คือ Digital และ Marketing ถ้าจะแปลเป็นไทยก็สามารถแปลตรงๆ ได้ และมีความหมายค่อนข้างชัดเจน เพราะคำว่า Digital หมายถึง ตัวเลข ดิจิตอล ส่วน Marketing หมายถึง การตลาด ซึ่งพอรวมกันก็สามารถสรุปได้ว่า Digital Marketing หมายถึง การทำการตลาดผ่านสื่อดิจิตอล แล้วสื่อดิจิตอล หมายถึงอะไรบ้าง มาร่วมหาคำตอบพร้อมๆ กัน

ว่ากันว่า ความหมายของคำว่า Digital Marketing คือ การทำการตลาดผ่านสื่อดิจิตอล เพื่อโปรโมทสินค้าและบริการ สร้างความมีส่วนร่วมกับลูกค้า เพิ่มยอดขายโดยใช้กลยุทธ์ต่างๆ ทางสื่อดิจิตอล ซึ่งความหมายข้างต้นนนี้ อาจมีความแตกต่างกันไปบ้างเล็กน้อย ทั้งนี้ก็แล้วแต่ผู้ให้คำนิยาม

กิจกรรมในการทำ Digital Marketing

  • Search Engine Optimization (SEO)
    เกี่ยวกับการปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถค้นหาง่ายขึ้น เวลามีคนค้นหาบน Search Engine อย่างเช่น Google, Bing และ Yahoo เป็นต้น
  • Search Engine Marketing (SEM)
    เกี่ยวกับการทำการตลาดผ่าน Google หรือ Search Engine อื่นๆ เพื่อให้แสดงผลป้ายโฆษณา มักอยู่ในรูปแบบของ Pay Per Click หรือ Pay Per View
  • Social Media Optimization (SMO)
  • เป็นการปรับปรุง Social media เช่น Facebook, Twitter ให้ค้นหาง่ายขึ้นบน Search Engine
  • Content Marketing
    การเขียนเนื้อหาบนสื่อออนไลน์ เพื่อโปรโมทสินค้าและบริการ
  • Campaign Marketing
    เป็นการทำการตลาดด้วยการทำโปรโมชั่น ไม่ว่าจะเป็นการให้ส่วนลด หรือให้ของแถม
  • E-Commerce Marketing
    เป็นการขายสินค้าและบริการผ่านออนไลน์
  • Social Media Marketing
    เป็นการทำการตลาดผ่านสื่อ Social Media ไม่ว่าจะเป็นการ Post หรือการทำโฆษณา
  • E-mail Marketing
    เป็นการส่งอีเมล เพื่อประชาสัมพันธ์ เพื่อแนะนำ ขายสินค้าและบริการ รวมทั้งการทำกิจกรรม
  • Display Marketing
    เป็นการทำการตลาด โดยการแสดงป้ายโฆษณาสินค้าและบริการ
  • E-book
    เป็นการทำหนังสือในรูปแบบของไฟล์บนคอมพิวเตอร์ และทำการแจกจ่าย หรือขาย เพื่อประชาสัมพันธ์
  • etc.
กิจกรรมข้างต้นส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมทางการตลาดแบบออนไลน์ ซึ่งกิจกรรมที่ไม่ผ่านออนไลน์อย่างเช่น การส่ง SMS/MMS ก็เป็นอีกกิจกรรมที่ไม่ควรมองข้างเช่นกัน

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้


Sunday, August 26, 2018

SEO คืออะไร? อธิบายแบบง่ายๆ ให้คนไม่รู้เรื่องอ่านรู้เรื่อง


“เราจะทำเว็บกันไปทำไม ถ้าไม่มีใครเข้ามาดูเลย?”
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็อยากมีเว็บไซต์ แต่พออุตส่าห์ลงทุนลงแรงสร้างเว็บขึ้นมาแล้วดันไม่มีใครเข้ามาเลย ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ก็คงยังไม่ถูกนำมาใช้เต็มที่นัก
แล้วต้องโปรโมทยังไง? ทำยังไงถึงจะมีคนเข้าเว็บเพิ่มขึ้น? เป็นคำถามที่หลายๆ คนยังคงหาคำตอบอยู่ หลายคนเลือกที่จะซื้อโฆษณาทั้งบน Facebook บ้าง Adword บ้าง แต่ค่าใช้จ่ายมันก็ไม่ใช่น้อยๆ แล้วพอหยุดซื้อโฆษณายอดผู้เข้าชมก็ลดลงไปอีก
บทความนี้ผมจะแนะนำให้รู้จักวิธีโปรโมทเว็บที่มีประสิทธิภาพที่สุดวิธีหนึ่งบนโลกออนไลน์ ที่เรียกว่า SEO (Search Engine Optimization) ที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณขึ้นไปติดอันดับต้นๆ ใน Search Engine อย่าง Google หรือ Bing เพื่อทำให้จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเพิ่มขึ้นท่วมท้น อีกทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอีกด้วย
แต่เพื่อให้คุณเข้าใจว่า SEO คือ อะไรนั้น ผมจะขอเริ่มอธิบายถึงความสำคัญของ SEO และเหตุผลว่า ทำไมคุณถึงควรทำ SEO ก่อนนะครับ แล้วคุณจะเข้าใจคำว่า SEO มากขึ้นอย่างแน่นอนครับ

แล้วทำไมเราต้องทำ SEO?

ทุกวันนี้ Search Engine อย่าง Google, Bing เป็นสิ่งที่เราทุกคนใช้บ่อยไม่แพ้ Facebook, Instagram และ Line เลย หลายคนแทบจะลืมไปว่ากำลังใช้ Search Engine อยู่ด้วยซ้ำ เพราะเดี๋ยวนี้แค่พิมพ์คำค้นหาเข้าไปใน Browser ก็เป็นการเริ่มใช้ Search Engine แล้ว
*เนื่องจากคนส่วนใหญ่ใช้ Google กันเป็นหลักอยู่แล้ว หลังจากนี้ผมจะขอใช้คำว่า Google แทน Search Engine เลยแล้วกันครับ
จากข้อมูลของ Internet Live Stats “ทุกๆ วันจะมีคนค้นหาข้อมูลบน Google มากกว่า 3,500,000,000 ครั้ง! (หรือ 40,000 ครั้ง/วินาที)” ไม่ว่าจะหาข้อมูลเพื่อซื้อสินค้า หาร้านอาหาร อ่านรีวิวท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งจ้างบริษัท/คนทำงาน และเว็บไซต์ที่แสดงเป็นอันดับต้นๆ ของ Google มักจะได้ผู้เข้าชมจำนวนมหาศาลเข้าไป
“แล้วเว็บไซต์ของคุณได้ประโยชน์จาก Google เต็มที่รึยัง?”

ถ้าเปรียบเทียบตำแหน่งบน Google กับหน้าร้านทั่วไป?

หากเว็บไซต์ของคุณไม่ติดอันดับต้นๆ ใน Google เลย คงเหมือนคุณตั้งร้านในซอยลึกๆ ที่ไม่มีใครเดินผ่านไปมา มีโอกาสน้อยมากที่คนทั่วไปจะมาบังเอิญเจอ คุณอาจต้องใช้เงินจำนวนมากซื้อโฆษณาเพื่อโปรโมทให้คนรู้จัก
การได้อยู่บนอันดับต้นๆ ใน Google ก็เหมือนกับคุณตั้งร้านอยู่ในที่ที่มีคนเดินผ่านไปมาตลอดเวลา ทุกวันจะมีคนหลักแสนเห็นแบรนด์และสินค้าของคุณโดยที่คุณแทบไม่ต้องซื้อโฆษณาเลย (ซึ่งปกติการตั้งร้านบนทำเลดีๆ แบบนี้คุณอาจต้องเสียค่าเช่าแพงมาก ในขณะที่ตำแหน่งบน Google นั้นคุณไม่ต้องเสียค่าเช่าสักบาท)

แต่ละตำแหน่งบน Google มีจำนวนผู้เข้าชมต่างกันแค่ไหน?

จากการสำรวจผู้ใช้ Google ในอเมริกาและแคนาดาของ Chitaka ในปี 2013 พบว่า เว็บไซต์ที่อยู่บนอันดับ 1 ของ Google มีผู้ใช้เข้าชมถึง 32.5% ของจำนวนการค้นหา Keyword นั้น ส่วนอันดับ 2 อยู่ที่ 17.6% (นั่นแปลว่า เพียงแค่ขึ้นจากอันดับ 2 ไปอันดับ 1 คุณจะได้ผู้เข้าชมจาก Keyword นี้เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเลยทีเดียว) และ 91.7% จะกดเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าแรก (Top 10) เท่านั้น  แปลว่ามีไม่ถึง 10% เท่านั้นที่จะดูเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าถัดๆ ไป ปัจจุบันทุกบริษัทจึงแข่งขันกันทำ SEO อย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงตำแหน่งบนสุดเหล่านี้

ก่อนทำ SEO

ก่อนจะเริ่มทำ SEO บนเว็บไซต์ คุณควรจะวางแผนก่อนว่าจะให้เว็บไซต์แสดงที่ผลการค้นหา Keyword โดยเริ่มจากการที่คิดว่าถ้าผู้ใช้จะเข้ามาที่เว็บของคุณ เขาจะค้นหา Google ด้วย Keyword อะไรบ้าง เมื่อได้ชุดของ Keyword แล้ว คุณสามารถตรวจสอบด้วยเครื่องมือ Google Keyword Planner ได้ว่า Keyword แต่ละคำมีปริมาณการค้นหาประมาณเท่าไหร่ และมีสภาพการแข่งขันกับเว็บอื่นๆ สูงหรือไม่ (สภาพการแข่งขันดังกล่าวเป็นการแข่งขันซื้อโฆษณา Google Adword แต่เราก็สามารถนำมาประเมินสภาพการแข่งขันตลาดคร่าวๆ ได้) จากนั้นเลือก Keyword ที่มีปริมาณการค้นหาที่คุ้มค่าเป็น Keyword ชุดหลักที่เราที่จะทำใช้ SEO

แนวทางการทำ SEO

การทำ SEO คือ ทำเว็บไซต์ให้ตรงตามเกณฑ์การให้คะแนนของ Google ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ โดย Google จะเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์คุณเป็นอยู่เรื่อยๆ แล้วดูความเกี่ยวข้องของเนื้อหากับ Keyword ใดบ้าง อีกทั้งโครงสร้างและความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์เป็นอย่างไร
วิธีการให้คะแนนอย่างละเอียดนั้นทาง Google ไม่เปิดเผยออกมา แต่มีผู้เชี่ยวชาญภายนอกจำนวนมากได้ทดลองและคาดการณ์กันว่า Google ใช้เกณฑ์อะไรบ้าง เราจึงใช้เกณฑ์เหล่านี้เป็นแนวทางในการทำ SEO โดยเว็บไซต์ Backlinko ได้สรุปปัจจัย 200 อย่างที่คาดว่ามีผลต่ออันดับใน Google ไว้ในบทความ Google’s 200 Ranking Factors: The Complete List
จากหลักเกณฑ์จำนวนมากในการทำ SEO ผมสรุปเป็นด้านหลักๆ เป็น 3 ด้านแล้วกันนะครับ คือ ด้านเนื้อหาด้านโครงสร้างและประสิทธิภาพเว็บไซต์ และด้านความน่าเชื่อถือ ทั้ง 3 ด้านนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ด้านเนื้อหา

เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการทำ SEO เพราะการที่เว็บไซต์จะเกี่ยวข้องกับ Keyword ใด Google จะดูจากความสำคัญของ Keyword ในเนื้อหาที่อยู่บนเว็บ ทั้งปริมาณ Keyword, ตำแหน่งที่ Keyword นั้นปรากฏอยู่ ว่าจะอยู่ใน Title, URL, ส่วนบนล่างของเว็บไซต์ หรือรูปแบบของ Keyword ว่าเป็นหัวข้อ, ตัวหนา, ตัวเอียงหรือ Link เป็นต้น
การทำ Content Marketing โดยการเขียนบทความให้ความรู้เกี่ยวกับสินค้าให้กับผู้ชมเว็บไซต์ ก็มีส่วนช่วยในการทำ SEO ได้ทางหนึ่ง เพราะบทความจะช่วยเพิ่มปริมาณ Keyword บนเว็บไซต์คุณโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่าง
ถ้าคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับธุรกิจขาย บ้าน/คอนโด การเขียนบทความให้ความรู้ เช่น “วิธีเลือก บ้าน/คอนโด ที่เหมาะสำหรับคุณ”, “วิธีตรวจรับ บ้าน/คอนโด อย่างมืออาชีพ” และลงบทความอื่นอย่างต่อเนื่อง นอกจากจะช่วยด้าน Content Marketing แล้วก็จะช่วยด้าน SEO อีกด้วย เว็บไซต์คุณก็จะมีคะแนนความเกี่ยวข้องกับคำว่า บ้าน/คอนโด มากขึ้น อันดับเว็บไซต์บน Google คำว่า บ้าน/คอนโด ก็จะดีขึ้นด้วย
*ข้อควรระวัง : หากบทความมี Keyword ถี่มากเกินไปจนผิดธรรมชาติ (Keyword spamming) นอกจากจะสร้างความรำคาญให้ผู้ใช้และสร้างภาพลบให้กับแบรนด์แล้ว Google อาจมองว่าเว็บไซต์จงใจหลอก Google และลดความน่าเชื่อของเว็บไซต์หรือแม้กระทั่งนำเว็บไซต์ออกจากการจัดอันดับไปเลยด้วย การเขียนบทความจึงควรเขียนให้เป็นธรรมชาติที่สุด

ด้านโครงสร้างและประสิทธิภาพเว็บไซต์

เป็นส่วนที่เกี่ยวกับเทคนิคการทำเว็บไซต์ทั้งในด้านโครงสร้าง ความสะดวกในการใช้งาน ความปลอดภัย และประสิทธิภาพด้านความเร็ว ซึ่งส่วนนี้มักจะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลให้ เช่น
  • การทำ HTTPS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการรับส่งข้อมูลบนเว็บ
  • การทำ Responsive Design เพื่อให้สามารถแสดงผลอย่างเหมาะสมได้บนอุปกรณ์ทุกขนาด ทั้ง Mobile, Tablet และ PC
  • การทำ Inbound Link เพื่อให้แต่ละหน้าบนเว็บไซต์เชื่อมต่อกันอย่างทั่วถึง และเพิ่มคะแนน Backlink ให้แต่ละหน้า
  • เทคนิคอื่นๆ เช่น เพิ่มความเร็วของเว็บไซต์, การบีบอัดภาพและสคริป, การใช้ Hosting ที่น่าเชื่อถือ, การสร้าง robot.txt สำหรับ Search Engine เป็นต้น
ควรให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ แล้วพิจารณาว่าจะปรับแก้เว็บไซต์เดิมให้ดีขึ้นหรือบางครั้งอาจจำเป็นต้องสร้างเว็บไซต์ใหม่ โดยเฉพาะเรื่อง Responsive Design เพราะหากเว็บไซต์เดิมไม่รองรับการแสดงผลบน Mobile Device แล้วการปรับแก้ของเดิมอาจยากกว่าการสร้างใหม่

ด้านความน่าเชื่อถือ

เป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพูดถึงหรืออ้างอิงมาที่เว็บไซต์จากแหล่งภายนอก ทั้ง Social Network และเว็บไซต์อื่นๆ (ซึ่งส่วนนี้จะมีผลต่อการทำ SEO มากที่สุดอย่างหนึ่ง) รวมถึงอายุของเว็บไซต์ โดยเว็บไซต์ที่อยู่มานานจะมีความน่าเชื่อถือกว่าเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดใหม่
การเขียนบทความที่มีคุณภาพเพื่อให้เว็บไซต์อื่นใช้ในการอ้างอิง หรือให้แพร่หลายใน Social Network เป็นวิธีที่น่าสนใจและเป็นวิธีที่มีคุณภาพวิธีหนึ่ง ทั้งยังช่วยสร้างชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์อีกด้วย
*ข้อควรระวัง : หาก Link ที่มาเว็บไซต์คุณส่วนใหญ่มาจากเว็บที่ไม่มีคุณภาพ (เช่น เว็บที่รับจ้างใส่ Link) เว็บไซต์คุณอาจถูกลดความน่าเชื่อถือลงได้ หรือ Link ที่เกิดจากการซื้อโฆษณาก็จะไม่ได้คะแนนในส่วนนี้เช่นกัน หรือการโพสต์ Link ในส่วน Comment ของ Webboard ต่างๆ ส่วนใหญ่เจ้าของเว็บไซต์จะทำให้ Link นั้นไม่ได้คะแนนการอ้างอิงอยู่แล้ว เพื่อกันการ Spam Link จนสร้างความรำคาญกับผู้ใช้งานบนเว็บของเขาเอง

จะตรวจสอบความก้าวหน้าของการทำ SEO ยังไง? และต้องรอนานแค่ไหน?

วิธีตรวจสอบง่ายๆ ให้คุณเปิด Chrome ขึ้นมา แล้วเข้าโหมด Incognito (เนื่องจากโหมดปกติ Google จะพยายามดึงเว็บที่เราเข้าบ่อยๆ เช่น เว็บเราเอง ขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งทำให้เราเห็นผลการค้นหาไม่ตรงกับผู้ใช้ส่วนใหญ่) ลองใส่ Keyword ที่คิดว่าผู้ใช้จะค้นหาแล้วดูว่าเว็บไซต์เราอยู่อันดับที่เท่าไหร่ (ถ้าเปิดไป 2-3 หน้าแล้วยังไม่เจอก็พอแล้วนะครับ ต้องเริ่มทำ SEO คำนี้ได้แล้ว)

สรุป

SEO คือ การทำให้เว็บไซต์ของคุณนั้นถูกค้นเจอโดย Google และถูกคลิ๊กโดยคนจริงๆ ซึ่งถ้าหากคุณทำ SEO ได้ดีแล้ว เว็บไซต์ที่คุณทุ่มเททำขึ้นมาจะสามารถ ‘Attract’ ผู้เข้าชมในทุกๆ วันอย่างแน่นอน แต่ผมขอบอกไว้เลยว่าการดึงคนเข้ามายังเว็บไซต์ยังเป็นเพียงก้าวแรกของความสำเร็จเท่านั้น เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เป้าหมายต่อไปคือ จะเปลี่ยนผู้เข้าชมเหล่านี้ให้เป็นลูกค้าของคุณได้อย่างไร? ซึ่งวิธีการต่างๆ เหล่านี้นั้นจะอยู่ในส่วนของ ‘Convert’ และ ‘Close’ ใน Inbound Marketing ครับ
อ่านบทความนี้จบแล้ว คุณเข้าใจเกี่ยวกับ SEO เพิ่มมากขึ้นรึเปล่า? หรือยังมีข้อสงสัยตรงส่วนไหน? พิมพ์มาพูดคุยกับผมในคอมเมนต์ได้เลยครับ
บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Thursday, August 23, 2018

"สะพานบอท" คืออะไร และช่วย SEO ได้อย่างไร


    การทำ seo นั้นแน่นอนครับ ว่าสำหรับผู้เริ่มต้นเปิดเว็บมาใหม่ๆ ก็ต้องโปรโมทเว็บในรูปแบบต่างๆ สำหรับ บทความ วันนี้เลยจะมาขอกล่าวถึงการ โพสพวกนี้แหละครับ แต่ว่ามันช่วยคุณได้เยอะกว่าที่คุณกำลังทำอยู่ทุกวันนี้อย่างแน่นอน เพราะผมจะกล่าวถึงเรื่องของ "สะพานบอท"






     

    สะพานบอท คืออะไร

    สะพานบอท คือ การสร้างช่องทางเพื่อให้บรรดา Rodots ของ Search Engine ทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Google มาพบเจอ และ นำ เว็บไซด์ ของคุณนั้นไปเก็บไว้ที่ SERPs  ( Search Engine Result Pages )

    สะพานบอททำอย่างไร

    การทำสะพานบอทนั้นสามารถทำได้หลายวิธี แตกต่างกันไป ผมขอเอาวิธีของผมมาแบ่งปันนะครับ

    1. landing page คือ การสร้างเพจขึ้นมาเพื่อรวบรวม Keyword ไว้แล้วรอให้ Rodots มาเก็บ  บางคนก็อัด Link ไว้มันทุกๆ Keyword เลย อืม... วิธีนี้เมื่อก่อน ฮิต มากครับ แต่ผมว่าถ้าจะทำแบบนี้ในตอนนี้ต้องระวัง Google Panda มาเก็บนะครับ วิธีของผมคือ นำหลักการของ landing page มาใช้ คือเวลาผมเขียนบทความ ผมจะพยายามแทรก Keyword ไว้ในบทความ รวมถึงเนื้อหาตอน เกริ่น ที่จะใชว์ในหน้าแรกด้วย ลองสังเกตุกันนะครับ แต่ถ้าจะแทรก Keyword ลงไปก็อย่าให้เยอะเกินไปจนผิดสังเกตุนะครับ

    2. ลายเซ็นในเว็บบอร์ด ข้อนี้นอกจากที่เราจะได้ BackLink มากมายแล้วเรายังได้ทำ สะพานบอท Keyword ไปในตัวด้วย เช่น เว็บบอร์ดอะไร ก็ตาที่เราเล่นอยู่บ่อยๆ เราเอาลายเซ็นไปใส่เช่น  กวดวิชา  แล้วใส่ Link เข้าไปในนั้น ทุกๆ กระทู้ที่คุณโพส หริอ เคยโพสไป จะมี Link ของคุณ ขึ้นทันทีโดยอัตโนมัติ แต่ก็พยายามไปใส่ในเว็บที่สอดคล้องกับเว็บคุณด้วยนะครับ

    3. โพสในเว็บบอร์ด ข้อนี้น่าจะถนัดกันนะครับก็โปรโมทเว็บแบบเดิมๆ ที่ทำกันนั่นแหละครับแต่ต้องทำอย่างพองาม และอย่าลืมใช้ Social Media ให้เป็นประโยชน์ด้วยนะครับ

    4.RSS Feed สร้าง RSS Feed ขึ้นมาจากนั้นไปสมัคร blog อะไรก็ได้ แต่สำคัญตรงที่คุณต้องเข้าไปอัพเดทมันบ่อยๆ และเขียนบทความที่ สอดคล้องกับเว็บไซด์ แต่ต้องไม่เอาบทความในเว็บไซด์ไปใส่ แต่เอา RSS Feed ไปใส่อาจจะบอกว่าเป็นแหล่งความรู้ก็ได้ และ หากใครเห็นว่า บทความ หรือ ข้อมูลคุณดีเค้าก็จะนำ RSS Feed ของคุณไปแปะ ไปเรื่อยๆ และคุณก็จะได้ BlackLink และสะพานบอทเพิ่มเอง

    หลักการทำงานของสะพานบอท


    Downline สะพานบอท  หลักการนี้ ถือเป็นการสรุปการทำงานของ สะพานบอททุกๆ หลักการเลยก็ว่าได้ คือนำ บทความ ของท่านบางส่วนไปให้เค้าอ่าน ถ้าเค้าเห็นว่าดีลองเข้าเว็บเราดูเห็นว่า เว็บนี้ได้ความรู้มีประโยชน์ เค้าจะจะบอกต่อสิ่งดีๆ นี้ให้เพื่อนๆ เค้า ต่อไปเรื่อยๆ ส่วนรูปแบบ RSS Feed นั้นไม่ต้องทำอะไรมากครับ แปะไปเฉยๆ ถ้าเค้าเห็นว่า อืม... บทความนี้ดีเ ค้าก็จะเอาไปแปะเว็บเค้าให้ บอกเพื่อนเค้าให้ไปแปะเว็บ และ แปะไปเรื่อยๆ เมื่อยิ่งมี Downline เยอะ มากแค่ไหน Upline ก็จะเติบโตมากขึ้นเท่านั้น LinkWheel  ของคุณก็จะมีพลังสูงขั้นไปเรื่อยๆ วิธีนี้ก็คล้ายๆ กันครับ และ ผมก็เชื่อด้วยว่าคุณผู้อ่านหลายๆ คน ก็เคยเป็น Downline สะพานบอทโดยไม่รู้ตัวมาเยอะแล้ว เพราะหากเราต้องการอะไรดีๆ เราก็อยากจะบอกต่อ จริงมัยล่ะครับ แต่การที่เราจะมี Downline ได้นั้น Upline ก็ต้องทำบทความ หรือ ข้อมูลในเว็บให้ดีคู่ควรกับการบอกต่อด้วยนะครับ 

    จริงๆ แล้วมีคนคิดหลักการสะพานบอทไว้มากมายด้วยกันแต่ล้วนแล้วก็คือการทำให้สะพานบอทกระจายต่อๆ กันเป็นทอดๆ เหมือนกับ Upline กำลังหา Downline ซึ่งบางคนก็เป็นทั้ง Upline และ Downline ด้วยตัวเองคือ โพสคนเดียวถ้าคุณกำลังทำแบบนั้นอยู่ก็ไม่ได้ผิดอะไร แต่ต้องทำระวังๆ หน่อยนะครับ

    บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้





Monday, August 20, 2018

หลักการทำ SEO ที่เเท้จริงมี 5 ข้อเท่านั้น !

หลักการทำ SEO ที่เเท้จริงมี 5 ข้อ


1. หา Keyword ที่คู่เเข่งเราใช้หรือมีคนกดมากที่สุด 

นำมาพัฒนากับ keyword เรา ผมมักจะใช้เครื่องมือในการค้นหา เช่น https://adwords.google.com/home/tools/keyword-planner/ เป็นผู้ช่วยในการดูจำนวนคนค้นหาบน Google




2. จับ Keyword มาใส่ให้เเต่ละหน้าของเรา 

ในหน้าเว็บเราไม่ได้มีเเค่หน้าเดียวใช่มั้ยครับ ? เรานำ keyword ที่เราได้มาผสมผสานกับ Title เเละ Description เเละ Tags เราให้เหมาะสมซิ !
เช่น keyword : มอเตอร์ไซค์มือสอง
หน้า หน้าหลัก (Homepage) : ค้นหามอเตอร์ไซค์มือสอง
หน้า รายละเอียดมอเตอร์ไซค์ (Listing Page) : มอเตอร์ไซค์มือสองยี่ห้อ Ducati



3. คอยเพิ่มเนื้อหาให้เว็บเรามากขึ้นด้วย Keyword ที่เเตกต่าง

จะคล้ายๆกับการเขียนข่าวสารอัพเดตบนเว็บไซค์เพื่อให้เว็บเรามีเนื้อหา ข้อมูล ข่าวสารที่เกี่ยวกับ Keyword นั้นมากยิ่งขึ้น 
เช่น Keyword : มอเตอร์ไซค์มือสอง
เขียนเนื้อหาเพิ่มที่เกี่ยวข้อง ฮอนด้า(Honda), ยามาฮ่า(Yamaha)




4. สร้างเครือข่ายลิงค์ (Link) ให้มากยิ่งขึ้น

ในการสร้างลิงค์เป็นเทคนิกที่จะสามารถเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมได้มากขึ้น เช่น การทำไปโพสบน กลุ่ม Facebook, กระทู้ เว็บบอร์ดที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่เราทำ เเละ หาพาร์นเนอร์ที่จะช่วยนำบทความหรือเว็บเราไปโปรโมทเช่นกัน



5. ทำตาม 1–4 ใหม่อีกครั้ง 

เราจะทำเพื่อการวัดผลเเละปรับปรุง Keyword ให้หลากหลายเเละมีคุณภาพมากยิ่งๆขึ้นไปอีก

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Sunday, August 19, 2018

SEO มีประโยชน์อย่างไร


SEO มีประโยชน์อย่างไร


คุณประโยชน์ของ SEO ที่ไม่อาจจะปฎิเสธได้

หลังจากที่ท่านได้นำ SEO ไปใช้และได้เห็นเว็บไซต์ของตัวเองปรากฎอยู่ในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาภายใน Search Engine หรือจะยังไม่เห็นก็ตาม แต่นั้นก็เป็นจุดมุ่งหมายของเจ้าของเว็บไซต์ทุกคน และการที่เจ้าของเว็บไซต์ได้นำ SEO ไปใช้จะเข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการทำ Search Engine Optimization อย่างแท้จริง ดังนั้นวันนี้เราจะมากล่าวถึงประโยชน์ของการทำ SEO ให้สมาชิกได้ทราบกัน

8 คุณประโยชน์ที่ไม่อาจปฏิเสธ Search Engine Optimization
        
1.การสร้างลูกค้าด้วยค่าใช้จ่ายที่ประหยัด

อย่างที่ทราบกันอยู่ว่าเราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดในการที่จะทำให้ Search Engine มาอินเด็กซ์เว็บไซต์ของเรา และถ้าหากเว็บไซต์ของเราทำ SEO อย่างถูกต้องแล้วก็ยิ่งจะทำให้เราได้รับผู้เยี่ยมชมที่สามารถกลายเป็นลูกค้าของเราได้อย่างง่ายดายโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ในขณะที่คนอื่นอาจจะต้องเสียค่าใช้'จ่ายจำนวนมากต่อเดือนเพื่อลงโฆษณาบน Sponsored Links ไม่ว่าจะเป็น Google, Yahoo หรือ MSN
        
2.ค่าใช้จ่ายที่คงที่

ค่าใช้จ่ายในการทำ Search Engine Optimization จะเป็นอะไรที่ค่อนข้างคงที่ ซึ่งในบางครั้งการทำ SEO ในช่วงแรกนั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง แต่พอผ่านขั้นตอนแรกไปแล้ว หลังจากนั้นก็จะเป็นขั้นตอนของการบำรุงรักษาอันดับ ค่าบริการสามารถลดลงได้ แต่ในทางกลับกัน การลงโฆษณาแบบ Paid-Search จะค่อนข้างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวล

3.ช่วยสร้าง Brand Visibility
สมาชิกลองนึกดูนะครับว่า ถ้าหากสมาชิกค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดคำว่า "ประกันชีวิต"บริษัทประกันภัยชื่อดังต่างๆ ก็จะปรากฏขึ้นมาภายในหน้าแรกของ Google ยิ่งถ้าเป็นเว็บไซต์ของสมาชิกด้วยแล้วละก็ Brand ของสมาชิกก็จะปรากฏต่อสายตาผู้ค้นหาเป็นจำนวนมาก และสำหรับบริษัทอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ภายในหน้าแรกนั้นหากต้องการที่จะอยู่ในหน้าแรกของ Google ก็ต้องซื้อโฆษณาในรูปแบบ PPC ซึ่งค่อนข้างที่จะแพงถ้าหากเป็นคำที่มีการแข่งขันสูง

4.ช่วยทำให้เกิดเป็นมาตราฐานและสามารถเข้าถึงได้ของเว็บไซต์

การที่เราจะสร้างเว็บไซต์ให้เป็นที่ชื่นชอบต่อ Search Engine นั้นต้องอาศัยการปฏิบัติอย่างถูกต้อง เนื่องจาก Robots/Crawler นั้นสามารถสังเกตเห็นถึงข้อผิดพลาดของโค้ดได้ เพราะฉะนั้นแล้วการตรวจสอบความถูกต้องของโค้ดนั้นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อ SEO และประโยชน์ที่จะตามมานั้นก็คือจะช่วยทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นมาตราฐานมากขึ้นและสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
        
5.ช่วยทำให้เกิด Repeat Business

ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาจาก Search Engine โดยส่วนมากค่อนข้างจะใช้บริการเว็บไซต์ของคุณในระยะเวลาที่ยาวนานกว่า ซึ่งนั้นก็หมายถึงเราสามารถที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าประจำเว็บไซต์ของคุณได้ด้วยการทำ Search Engine Optimization
       
6.ช่วยสร้างลูกค้าใหม่

การค้นหานั้นเกิดจากความต้องการของผู้เยี่ยมชม เพราะฉะนั้นแล้วผู้เยี่ยมชมที่มาจาก Search Engine โดยส่วนมากจะมีความสนใจในสินค้าหรือบริการ และถ้าหากเว็บไซต์ของเราแสดงเนื้อหา ข้อมูลที่พวกเขาต้องการ การที่พวกเขาเหล่านั้นจะเปลี่ยนเป็นลูกค้าประจำคนใหม่ของคุณนั้นก็มีโอกาสเป็นได้สูงเช่นกัน
        
7.ช่วยสร้างคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใคร

เป็นที่ยอมรับกันอยู่แล้วว่าคุณภาพของเนื้อหาและเนื้อหาที่เป็นต้นฉบับนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการทำ Search Engine Optimization และโดยธรรมชาติของข้อมูลภายในเครือข่าย WWW (World Wide Web) นั้นเนื้อหาที่ดีย่อมดึงดูดลิงค์เชื่อมโยงจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ โดยเหตุผลนี้จึงสามารถอธิบายได้ว่าทำไม คุณภาพของเนื้อหาภายในเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งสำคัญ
        
8.เป็นโปรโมชั่นที่ไม่เคยหลับ

Search Engine นั้นเปรียบได้เทียบเท่ากับบริษัทโฆษณาส่วนตัวของคุณและทำงานให้คุณตลอด 24 ชั่วโมงต่อวัน 7 วันต่ออาทิตย์ 365 วันต่อปี ซึ่งสามารถพูดได้ว่าเป็นบริษัทโฆษณาที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
นี่ละครับ คือคุณประโยชน์ของการทำ Search Engine Optimization ที่พวกเราไม่สามารถปฏิเสธได้ นี่ก็เป็นเกร็ดเนื้อหาความรู้ที่เราได้นำมาฝากกันในสัปดาห์นี้นะครับ

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้