Sunday, December 30, 2018

Social Media Marketing คือ?


“ ทำความรู้จักการตลาดแซงทางโค้งอย่าง Social Media Marketing : SMM”
ก่อนอื่น เรามาทำความเข้าใจกับ 2 คำหลักสำคัญก่อนดีกว่า นั่นคือ Social Media และ Social Network 2 คำนี้ใกล้เคียงกัน แต่ไม่เหมือนกันค่ะ
Social Media หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตสามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน โดยใช้สื่อต่างๆเป็นตัวกลางในการสนทนา โดยมีการจัดแบ่งประเภทออกไป เช่น สื่อสิ่งพิมพ์(Publish) สื่อแลกเปลี่ยน(Share) สื่อสนทนา(Discuss) ในขณะที่ Social Network คือการเน้นเฉพาะเจาะจงไปยังเครือข่ายออนไลน์เลย เช่น Facebook. Google ดังนั้นแล้ว Social Network จึงเป็นส่วนหนึ่งของ Social Media นั่นเอง
Social Media Marketing (SMM) จึงหมายถึงการทำการตลาดบนสื่อออนไลน์ เพราะนอกจากคนส่วนใหญ่จะเข้าถึงได้ง่ายแล้ว ยังพบสถิติการใช้ที่สูง เกือบจะตลอด 24 ชั่วโมงเลยด้วย ทำให้เกิดข้อดีของการทำ Social Media Marketing นั่นคือการเข้าถึงกลุ่มบุคคลที่สนใจในตัวสินค้หรือบริการแบบตัวต่อตัว โดยที่เจ้าของกิจการสามารถพูดคุยหรือสอบถามข้อมูลผ่านทาง Social Media ได้เหมือนผู้ซื้อได้พูดคุยสอบถามข้อมูลกับเจ้าของร้านโดยตรง
เมื่อย้อนกลับไปที่การตลาดแบบยุคดิจิทัล (Digital Marketing) จะทำให้เราสามารถนึกภาพตามได้อย่างง่ายดาย นั่นคือ Digital Marketing : การตลาดออนไลน์ -> Digital Media : สื่อบนโลกอินเตอร์เน็ตทั้งหมด -> Social Media Marketing : การทำการตลาดบนสื่อออนไลน์
โดยรวมแล้วหมายความว่า Social Media Marketing ถือเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดผ่านการสื่อสารรูปแบบหนึ่ง เพื่อติดต่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ใช้ทั้งหลักการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ การขาย ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียล โดยเจ้าของธุรกิจสามารถค้นหา วางแผนกิจกรรม เพื่อนำบริการเหล่านี้มาเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจของตัวเอง
การตลาดผ่านทาง Social Media Marketing ที่เห็นได้อย่างชัดเจน และใช้กันอย่างกว้างขวางในปี 2015 ได้แก่ Facebook MarketingTwitter MarketingInstagram Marketing และ Youtube Marketing
ประโยชน์ที่ได้รับโดยตรงจากการทำการตลาดบนสื่อออนไลน์ คือ
  1. ติดอันดับ : สามารถช่วยต่อเรื่องระบบการค้นหา เพื่อให้คำค้น(Keyword)ที่คุณต้องการ หรือคำค้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจชองคุณแสดงผลมากขึ้น รวมทั้งผลักดันเว็บไซต์ของคุณ ให้อยู่ในอันดับที่ดีบนเว็บไซต์ Google อีกด้วย
  2. บอกต่อ : เกิดการพูดถึง และเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยเฉพาะใน Marketing Campaign ที่โดดเด่นจนสามารถสร้างกระแส Viral ได้
  3. การสื่อสาร : เป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อสื่อสารระหว่างลูกค้าและบริษัทได้มากขึ้น มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ผู้ซื้อสามารถพูดคุยสอบถามข้อมูลกับเจ้าของร้านได้โดยตรง
  4. กลุ่มเป้าหมาย : สามารถเลือกระบุเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ ผ่านการวางแผนทางการตลาด และกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบต่างๆ
  5. ค่าใช้จ่าย : เหมาะสำหรับธุรกิจรายเล็ก หรือ SME ที่สุด เนื่องจากเป็นการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่แทบจะไม่เสียเงิน สามารถบริหารจัดการ และวิเคราะห์การตลาดเองได้ด้วยตัวเองผ่านระบบ Analyze ต่างๆที่มีมาให้ในการวิเคราะห์ประมวลผล
เรียกว่าเป็นการตลาดบนสื่อออนไลน์ ที่มาแรงแซงทุกโค้งจริงๆ การติดตามสถานการณ์ข่าวใหม่ ให้ทันต่อเหตุการณ์เสมอเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้ หากคิดจะทำการตลาดออนไลน์ …เพราะเช่นนั้นอย่ารอค่ะ มาเริ่มต้นในการทำ SMM กันเถอะ
บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Friday, December 28, 2018

การใช้ SOCIAL NETWORK ในการทำการตลาดของคุณให้มีประสิทธิภาพ


Social Network หรือ สื่อสังคมออนไลน์ ดูจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้วในปัจจุบัน ทุกๆ คนในโลกนี้สามารถเข้าถึงสื่อดังกล่าวเพียงแค่ปลายนิ้ว และที่น่าตกใจคือสื่อ Social Network เป็นสื่อที่มีคนเชื่อมากที่สุดในปัจจุบัน มากกว่าการเห็นหน้าค่าตากันด้วยซ้ำ ฉะนั้นหากคุณสามารถใช้สื่อดังกล่าวในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ของคุณ คุณคิดว่าจะส่งผลทวีคูณขนาดไหน กับการตลาดของคุณ
วันนี้ผมมีเคล็ดลับ การใช้สื่อ Social Network ให้มีประสิทธิภาพในการทำการตลาด และการสร้างแบรนด์ซึ่งคุณสามารถนำไปปรับใช้ได้กับองค์กร หรือกิจการของคุณ



ลักของการใช้ Social Network ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดกับการตลาดของคุณ


1. ควรสื่อสิ่งที่เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้าทันที ไม่ต้องอ้อมค้อม แสดงไปเลยว่าสินค้า และบริการของคุณนั้นสามารถช่วยเขาได้อย่างไร ทั้งนี้บทความ หรือสื่อที่แสดงออกไป ต้องทันสมัย ทันเหตุการณ์ ทันยุคสมัยด้วยครับ

2. จะต้องเป็นการเสนอแบบ Interactive คือเป็นการสื่อสาร 2 ทางเช่นหากมีผู้สนใจติดต่อเข้ามาผ่านสื่อดังกล่าว จะต้องมีการให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับสินค้า และบริการของคุณได้อย่างเสรี และต้องตอบคำถามทุกครั้งอย่างชัดเจน อย่าปล่อยให้ลูกค้าต้องคอยการตอบคำถามของคุณนานนัก จะเป็นการเสียโอกาสเป็นอย่างมาก

3. Individualization เป็นกิจกรรมที่สามารถทำให้ลูกค้าเกิดความเสรีในการเลือกสินค้า และบริการได้อย่างเป็นส่วนตัว การถามตอบเกี่ยวกับสินค้า และบริการผ่านสื่อ Social Network นั้นจะต้องเป็นการสอบถามอย่างเป็นส่วนตัว ไม่ควรแสดงรายละเอียดการถามตอบในกลุ่มกว้างๆ หรือให้สมาชิกทั่วไปได้เห็น ทุกๆ คนชอบความเป็นส่วนตัวครับ

4. การส่งเสริมการตลาดผ่านสื่อดังกล่าวจะต้องไม่ทำให้ลูกค้า หรือผู้รับสื่อรู้สึกว่าถูกยัดเยียดข้อมูล ควรแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากกว่า และไม่ควรแสดงข้อมูลในระยะเวลาที่ถี่ และกระชั้นชิดจนเกิดไปนักเพราะทำให้รู้สึกรำคาญเสียมากกว่า

5. คุณต้องวิเคราะห์ให้เข้าถึง Insight หรือความต้องการและแรงจูงใจที่แท้จริงของลูกค้า และผู้บริโภค เช่นความต้องการเป็นที่ยอมรับในสังคม  ความต้องการในการดูแลรักษาสุขภาพเป็นต้น แล้วแสดงข้อมูลใน Social Network ให้ตรงจุดนั้นไปเลย

6. จะต้องมีความแปลกใหม่ของข้อมูล และรูปแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน ยิ่งแปลก ยิ่งแหวกแนวยิ่งดี ตลาดปัจจุบันต้องการสื่อ Social Network ที่แหวกแนวและไม่จำเจ

7. สื่อให้ลูกค้า และผู้บริโภคให้เห็นไปเลยว่า เป็นแบรนด์อะไร และเกี่ยวกับอะไร บอกตรงๆ ไปเลยครับ ยิ่งหากคนทั่วไปได้เห็นแล้วสามารถตอบได้ทันที แสดงว่าสื่อ Social Network คุณมีคุณภาพ มาก ความสำเร็จที่จะมีผู้คนรู้จักแบรนด์ของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

8. จะต้องมีการสื่อสารของข้อมูลไปในแนวทางเดียวกัน จะต้องมีชื่อยู่จริง มีสินค้าอยู่จริง ไม่ใช่ว่าคุณมีแบรนด์อีกอย่าหนึ่ง แต่ร้านของคุณเป็นอีกแบบหนึ่งที่ไม่สอดคล้องกัน การกระทำดังกล่าวอาจจะทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน และที่ร้ายกว่านั้นอาจจะไม่มีการซื้อสินค้าจากคุณอีกเลย

ลอง นำกฎ 8 ข้อนี้ไปใช้ดูครับ กฎดังกล่าวเป็นกฎที่ปรมาจารย์ด้านการโฆษณาผ่าน Social Network ทำกัน ซึ่งผมเห็นว่ามีประโยชน์ และเหมาะกับการทำการตลาดในประเทศไทยมาก ลองนำไปใช้ดูครับ

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Wednesday, December 26, 2018

E-Marketing การตลาดในรูปแบบออนไลน์ (Online Marketing)


แบ่งได้เป็น 2 ทางคือ

       1. การตลาดในรูปแบบของ Offline Marketing คือ การสื่อสารในส่วนของการตลาด กล่าวคือ กิจกรรมในการโฆษณา การตลาดต่างๆ และการขาย ที่ไม่เกี่ยวกับ Internet หรือเป็นการตลาดที่สามารถจับต้องได้นั่นเอง

       2. การตลาดในรูปแบบของ Online Marketing คือ การตลาดโดยมีกิจกรรมบนโลกCyber หรือระบบ Internet ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในแบบของการซื้อ - ขาย การทำโฆษณาหรือวางแผนในส่วนของการตลาด ผ่านทาง Internet ซึงในปัจจุบันนั้นจะมีความสำคัญมากและลดค่าใช้จ่ายได้มากทีเดียว  ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี

       ในวิธีการทำการตลาดบนโลก Online ส่วนประกอบหรือองค์ประกอบ ของการตลาดแบบพาณิชย์ Electronic  นั้นเป็นสิ่งสำคัญ ที่ให้ผู้ประกอบการที่มีหน้าร้านบนโลกCyber จะต้องมีการทำความเข้าใจเป็น อย่างดีที่สุด เพื่อที่จะได้จัดกิจกรรมในด้านของทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมมากที่สุด

       ช่วงเริ่มต้นนั้น วิธีการทำการตลาดอาจจะเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ รวมไปถึงผู้ประกอบการที่ทำการดำเนินธุรกิจอยู่ แต่ในการศึกษาข้อมูล และการทำความเข้าใจวิธีการทางการตลาดนั้น จะสามารถใช้วิธีการนำเอาข้อมูล(Data)ดังกล่าวไปใช้เพิ่ม ทำให้เข้าใจส่วนต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้ธุรกิจ Online สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้อย่างตรงกลุ่มเป้า หมาย การใช้อิเล็กทรอนิกส์เป็นเครื่องมือเชิงพาณิชย์นั้น ช่วยให้ผู้ขายสามารถประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งในส่วนของสินค้า พนักงาน และการให้บริการได้ตลอดวัน โดยปัจจุบันเครือข่าย Internet ที่มีคนใช้ทั่วโลกกว่า 600 ล้านคนทำให้ปริมาณการซื้อขายมีการเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่ทั้งนั้น ผู้ขายต้องศึกษาเรื่องของสินค้า, ช่องทางในการประชาสัมพันธ์ กำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน เพื่อให้การใช้สื่อออนไลน์ประเภทนี้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด

       เพราะฉะนั้น การมี Website เพื่อจำหน่ายสินค้านั้น จึงไม่ใช่เป็นเครื่องการรับประกันความสำเร็จในธุรกิจ เพราะยังมีส่วนประกอบที่สำคัญ คือ การตลาด แต่เดิมนั้น หลายคนอาจจะรู้จักส่วนผสมทางการตลาดเพียงแค่ 4 P คือ Product(สินค้า), Price(ราคา), Place(สถานที่), Promotion แต่ปัจจุบันมีเพิ่มมาอีก 2 P ใหม่คือ Personalization และ Privacy เพื่อให้ก่อเกิดแนวคิดการประยุกต์ใช้องค์ประกอบในการตลาดดั้งเดิม ทำให้เกิดองค์ประกอบหรือส่วนประกอบการตลาดแบบใหม่ได้

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Tuesday, December 25, 2018


เริ่มต้นด้วยการทำความรู้จัก SEM (Social Media Marketing) กันก่อน และถ้าจะให้แปลตรงๆ คำว่า Social Media Marketing หมายถึง การทำตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งพอจะแบ่งออกได้เป็น สองคำ คือ คำว่า Social Media + Marketing ปัจจุบันการทำตลาดผ่านสื่อออนไลน์ดูเหมือนว่าจะมีการแข่งขันที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก Social Media Marketing สามารถเข้าถึงผู้คนได้ครั้งละมากๆ ในคราวเดียวกัน ซึ่งแตกต่างจากการโฆษณาบนทีวี วิทยุ หรือสื่อหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ซึ่งต้องใช้เวลาในการจัดทำข้อมูลล่วงหน้า
ต้นทุนการทำตลาดด้วย Social Media ค่อนข้างต่ำ คุณเห็นด้วยหรือไม่

Social Media คืออะไร


โซเชียลมีเดีย คือ สื่อสำหรับการสื่อสาร หรือปฏิสัมพันธ์ ระหว่างคนในสังคม โดยการสื่อสารมีลักษณะการเข้าถึงคนจำนวนมาก คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า Social Media หมายถึง Facebook กับ Twitter แต่ในความเป็นจริงแล้ว?Social Media?มีมากมายก่ายกอง แถมยังมีการแบ่งออกเป็นย่อยๆ ได้อีกหลากหลายเช่นเดียวกัน สำหรับ Social Media ที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน (บางส่วนที่เราเห็นว่าน่าสนใจและปัจจุบันมีการใช้กันมาก) ได้แก่

Social Network

  • Facebook
  • Hi5
  • Linked
  • MySpace
  • Bebo
  • Orkut

Discuss

  • Skype
  • Google Talk
  • Meebo
  • Windows Live Messenger
  • Yahoo Messenger

Microblog

  • Twitter
  • Jaiku
  • Twitxr
  • Plurk
  • Adocu

Publish

  • Wikipedia
  • Blog
  • Digg
  • Newsvine
  • Wikia

Share

  • YouTube
  • Flickr
  • Slideshare
  • Crowdstorm
บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Friday, December 21, 2018

Digital Marketing

Digital Marketing หรือ การตลาดออนไลน์ จะช่วยธุรกิจร้านอาหารได้อย่างไร?

Digital Marketing การตลาดออนไลน์
คุณอย่ามองว่า ธุรกิจร้านอาหาร ขายได้แต่ออฟไลน์ ใช่ว่าในโลกออนไลน์จะไม่มีลูกค้าของคุณอยู่ คุณสามารถดึงพวกคนเหล่านั้นมาเป็นลูกค้าของคุณได้เหมือนกัน เพราะคนในปัจจุบันขอเพียงแค่คุณทำให้พวกเขารู้จัก ดูแล้วมีอาหารที่น่าสนใจ ไกลแค่ไหน เขาก็จะมาหาคุณ การตลาดออนไลน์ก็เปรียบเหมือนสิ่งที่จะมาช่วยเพิ่มกลิ่นให้กับรสชาติอาหารของคุณ ให้คนได้เชยชมกลิ่นของมัน ยั่วยวนชวนให้น่าลิ้มลองนั่นเอง

ทำให้เจ้าของ ธุรกิจร้านอาหาร หลายเจ้า ต่างมองหา Social Media ที่ยอดนิยมในไทย อย่าง Facebook, Instagram, Line มาใช้เป็นช่องทางในการปล่อยสื่อโฆษณา โดยจะเป็นการทำการตลาดในรูปแบบ Outbound Marketing โดยเน้นการส่งสื่อโฆษณาไปหาผู้รับสารผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ดึงดูดให้คนมาที่ร้านของเราให้ได้

แล้ว Social Medais จะช่วย ธุรกิจร้านอาหาร ได้อย่างไร?

ธุรกิจร้านอาหาร

Instagram

ถือว่าเป็น Social Media ที่ถูกทำมาเพื่อโชว์รูปภาพและวิดีโอโดยเฉพาะ เน้นถ่ายรูปอาหารใน Mood & Tone ที่ดูแล้วน่าสนใจ ดูแล้วน่ารับประทาน เรียกได้ว่าIG เหมาะกับธุรกิจที่เน้นการโชว์รูปภาพสินค้า อย่าง ร้านอาหาร เพราะทุกครั้งที่โพสต์ก็เหมือนกับการได้โชว์เมนูที่น่าสนใจของทางร้านไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาดูเมนูได้

Facebook

ก็ขายด้วยรูปได้เหมือนกัน อีกทั้งสามารถยังนำเสนอในรูปแบบของอัลบั้มที่ดูง่าย หรือมีวิดีโอสั้นๆ ไว้รีวิว พร้อมกับถ้าหากมีงบที่มากพอก็อาจจะจ้าง Influencer มาช่วยประชาสัมพันธ์อีกแรงได้เหมือนกัน คนมักจะเชื่อคนพูดด้วยกันเองมากกว่าแบรนด์พูด

Line

อย่าง Line ก็สามารถทำคลิปสั้นๆ เพื่อโปรโมตร้านหรือเมนูอาหารที่น่าสนใจได้ หรือจะใช้ Broadcast Line@ ที่เอาไว้ส่งข้อความหาคนที่ Followers ด้วยโปรโมชั่นหรืออะไรก็ตามแต่ เพื่อให้เขากลับมาทานอาหารที่ร้านอีกครั้ง

โดยสรุปแล้วการทำ Digital Marketing ดีอย่างไร

Digital Marketing
ช่วยทำให้คุณสามารถเข้ากลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น สามารถ Target Audience ตาม Objective ที่วางตามแผนการตลาด สามารถเก็บข้อมูล เพื่อต่อยอดในการทำการตลาดในรูปแบบต่างๆ สามารถทำการตลาดกลับเข้าไป Remind คนที่มีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าของคุณได้อีกด้วย ซึ่งจะแตกต่างกับการตลาดแบบออฟไลน์ที่คุณไม่สามารถรู้ได้ว่าโฆษณาที่คุณส่งไปตรงกับเป้าหมายที่มีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าหรือเปล่า ดังนั้น การมีข้อมูลย่อมดีกว่าการไม่มีข้อมูล” นั่นเอง

Wednesday, December 19, 2018

6 DIGITAL MARKETING TRENDS ที่น่าจับตาและมาแรงถึงปี 2018





ข่าวการทยอยปิดตัวลงของสื่อ Traditional แบบเดิม ยิ่งตอกย้ำว่า Digital Marketing เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการตลาดของธุรกิจขนาดใหญ่และธุรกิจขนาดกลางไปแล้วเกือบทั้งหมด ซึ่งความก้าวหน้าของการตลาดออนไลน์ก็มีสิ่งใหม่ที่สร้างความว้าว! และทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายกันได้มากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ Trends ที่บรรดากูรูนักการตลาดทั่วโลกต่างทำนายว่าจะมาแรง และสร้างความสนใจได้อย่างต่อเนื่องถึงปี 2018 มีอะไรบ้าง? เลื่อนไปอ่านพร้อมกัน

1. กระแสวีดีโอที่โตขึ้นเรื่อยๆ

เห็นได้ชัดว่าในปี 2017 เนื้อหาประเภทวีดีโอได้รับความนิยมสูงมาก ไม่ว่าจะแบรนด์เล็ก แบรนด์ใหญ่ ต่างโดดเข้ามาเล่นกับกระแสนี้ด้วยกันทั้งสิ้น บวกกับอัลกอริทึ่มของพี่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ที่ปีนี้ปรับ Facebook มาให้น้ำหนักกับเนื้อหาวีดีโอมากเป็นพิเศษ ยิ่งทำให้วงการดิจิทัลถูกกระตุ้นด้วยคลิปภาพเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก ซึ่งในปี 2018 เชื่อว่าขนาดของการทำวีดีโอนั้นจะพัฒนาและเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ

2. สมาร์ทโฟนคว่ำแลปท็อปอย่างสมบูรณ์แบบ

ไม่ได้หมายความว่าคนจะเลิกใช้แล็ปท็อปกันหมดแล้ว แต่ด้วยความฉลาดและความสามารถรอบตัวของสมาร์ทโฟนในยุคต่อไป จะทำให้เราจัดการเรื่องต่างๆ บนมือถือได้เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะยอดการเข้าชมและทำกิจกรรมบนโลกออนไลน์ที่จะมีอัตราการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

3. คนจะควักกระเป๋าซื้อแอพกันมากขึ้น

ทุกวันนี้เรานิยมใช้มือถือกันอยู่ตลอดเวลาตั้งเรื่องงานยันเวลาพักผ่อน โดยเฉพาะการโหลดแอพต่างๆ มาใช้งาน ซึ่งในปี 2018 คาดการณ์กันว่า ผู้พัฒนาแอพจะยิ่งเพิ่มลูกเล่นและพัฒนาฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงจะมีผู้พัฒนาหน้าใหม่เข้ามาผลิตแอพเจ๋งๆ แข่งขันกัน นั่นยิ่งเพิ่มโอกาสและตัวเลือกให้ผู้ใช้งานได้โหลดแอพที่ถูกใจ จนยอมควักระเป๋าซื้อหรืออัพเกรดฟีเจอร์ที่เพิ่มเติมได้ง่ายยิ่งขึ้น

4. การโปรโมตลงเว็บไซต์จะแพงขึ้นกว่าเดิม

สนามธุรกิจออนไลน์ในปี 2018 จะยิ่งใหญ่และดึงคนเข้ามีส่วนร่วมได้มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งแนวโน้มที่บรรดาแบรนด์ต่างๆ จะกระโจนลงมา PR สินค้าตัวเองผ่านโลกดิจิทัลก็จะมีมากขึ้นด้วย จึงมีโอกาสที่จะเกิดการแข่งขันระหว่างแบรนด์ในการแย่งชิงพื้นที่ออนไลน์ ส่วนเหล่าพอร์ทัลเว็บทั้งหลายนี่ก็เป็นยุคที่มีโอกาสจะได้รับค่าตอบแทนจากการลงโฆษณาที่มากขึ้น

5. พาเหรดเทคโนโลยีบน Mobile

ปีที่ผ่านมาอาจเคยได้ยินผ่านหูกันบ้างแล้ว กับเทคโนโลยี Geo-fencing, Beacons หรือ Location-based ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นอุปกรณ์หลักในการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภค แต่ในปี 2018 เราจะได้เห็นแบรนด์ต่างๆ หยิบเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้กันอย่างจริงจัง ลองคิดดูแค่คุณเดินเข้าไปในร้านก็มี SMS ส่วนลดส่งเข้ามา เดินผ่านของที่เราถูกใจก็จัด Offer พิเศษๆ มาให้อีก เจ๋งขนาดนี้อยากเร่งให้ถึงปีหน้ากันแล้วใช่ไหมล่ะ

6. เซอร์วิสคุณภาพ ชี้ชะตาธุรกิจยุคดิจิทัล

ในปี 2018 ไม่ใช่เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ธุรกิจนั้นอยู่รอดได้ แต่คีย์ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จคือการให้ความสำคัญในเรื่อง Customer Centric Experience การสร้างประสบการณ์ที่ดีโดยการเข้าใจลูกค้าให้มากที่สุด ซึ่งแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวและวิ่งตามให้ทันความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงเข้าไปแก้ไขปัญหาที่เกิดอย่างทันท่วงที

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Tuesday, December 18, 2018

เทคนิคทำการตลาดออนไลน์


1. Influencer Marketing

Influencer คือ ผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ที่มีผู้ติดตามตั้งแต่หลักหมื่น ไปจนถึงหลังล้านเลยก็ว่าได้
ซึ่งการนำสินค้าไปให้ Influencer ช่วยในการทำการตลาดนั้น ก็ถือว่า Effective สุดๆในยุคนี้เลย แต่การที่แบรนด์จะเลือกใช้ Influencer คนไหนนั้น ก็ต้องคำนึงถึงสินค้าด้วยว่า มันตรง Target ของ Influencer นั้นหรือไม่
ยกตัวอย่างเช่น มีร้านกาแฟเปิดใหม่ ตกแต่งร้านได้สวยงาม ดูมีกิมมิค น่าถ่ายรูป แต่ดันอยู่ในทำเลที่คนเข้าถึงยาก จึงเลือกใช้ Influencer สายตระเวนชิม หรือสายท่องเที่ยว มาช่วยแนะนำร้านเพื่อให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่า Influencer หรือ Blogger นั้น ย่อมมีอิทธิพลต่อผู้ที่ติดตาม และทำให้ผู้ติดตามเกิดความสนใจแบรนด์ ไปจนถึงการซื้อสิ้นค้าได้ไม่ยากเลย

2. Review

นอกจาก Influencer Marketing ที่จะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้นแล้ว การตลาดผ่านการรีวิวจากผู้ใช้จริง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะมันจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าได้เป็นอย่างดี
ยกตัวอย่างเช่น มีลูกค้ารู้จักและเกิดความสนใจในสินค้าของคุณผ่านทาง Influencer แล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะต้อง Search หาข้อมูลสินค้าของคุณ ว่าสินค้านี้เป็นอย่างไร ใช้แล้วดีไหม มีคนพูดถึงสินค้าไปในทางที่ดีหรือไม่ ซึ่งจุดนี้แหละเป็นจุดตัดสินใจสำคัญของลูกค้าที่จะตัดสินใจไปต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าของคุณสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้่มากน้อยเพียงใด

3. Promotion

แน่นอนว่าถ้าอยากกระตุ้นยอดขาย ก็ต้องมี Promotion ลด แลก แจก แถม กันหน่อย ไม่ว่าจะเป็นการร่วมสนุกกิจกรรมในเพจแล้วได้รางวัล, ซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์แล้วได้คูปองส่วนลด หรือ ส่งสินค้าฟรีตั้งแต่ชิ้นแรก ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าว่าจะทำ Promotion แบบไหนได้บ้าง
แต่การทำ Promotion ก็ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพราะมันจะทำให้ลูกค้าติด โปรฯ ซึ่งลูกค้าจะรู้สึกไม่อยากซื้อสินค้าตอนที่ไม่มี Promotion แต่จะรอจนกว่าแบรนด์จัด Promotion ถึงจะซื้อ นั่นถือว่าเป็นผลเสียร้ายแรงต่อแบรนด์ในระยะยาวได้เลย

4. Website

ปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า เว็บไซต์เป็นพื้นฐานในการทำการตลาดออนไลน์ไปเสียแล้ว เพราะยุคนี้ ใครๆก็เข้าไปหาสินค้าหรือบริการผ่าน Google กันทั้งนั้น ซึ่งร้านค้าไหนที่ไม่ได้ทำเว็บไซต์ ก็ไม่สามารถทำโฆษณาผ่าน Google AdWords ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นเท่ากับว่าร้านค้านั้นเสียโอกาสทำเงินไปอย่างมากมายมหาศาล
ที่สำคัญไปกว่านั้น เว็บไซต์ยังเป็นตัวบ่งบอกถึง Brand Identity ให้กับลูกค้า ที่เข้ามายังหน้าเว็บไซต์แล้วเกิดความรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของเขา ซึ่งเว็บไซต์ที่สามารถ Serve ความเป็น Unique ตรงนี้ให้กับลูกค้าได้ ก็มีโอกาสที่จะสามารถปิดการขายผ่านหน้าเว็บไซต์ได้เองโดยที่ไม่ต้องทำอะไรให้เหนื่อยเลย เพราะระบบเว็บไซต์สมัยนี้ก็มีระบบชำระเงินผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก และในส่วนของธุรกิจเอง ก็สามารถบริหารจัดการสินค้าได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นอีกด้วย
บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Monday, December 17, 2018

Mobile Marketing มีประโยชน์อย่างไรในเชิงธุรกิจ


1. ความรวดเร็วในการส่งต่อข้อมูลข่าวสาร

การใช้การตลาดแบบ Mobile Marketing นั้นจะทำให้คุณสามารถส่งข้อมูล ข่าวสาร ให้ถึงมือลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาในการกระจายข้อมูลข่าวสาร ดังเช่นการส่งข้อมูลข่าวสารทางจดหมาย หรือการโทรศัพท์ไปหาลูกค้า เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารทีละคน
Mobile Marketing

2. ประหยัดค่าใช้จ่าย

แน่นอนว่านี่เป็นอีกหนึ่งประโยชน์ที่ทุกคนมักจะชื่นชอบสำหรับการทำการตลาดไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน และการตลาดแบบโมบายล์มาร์เก็ตติ้งนั้นก็สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ให้กับคุณได้เหมือนกัน เนื่องจากคุณไม่จำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดส่งข้อมูลข่าวสารให้ถึงมือกลุ่มลูกค้าคุณมากนัก การทำการตลาดแบบนี้จึงสร้างความประหยัดให้กับคุณได้มากแน่นอน
Mobile Marketing

3. ข้อมูลข่าวสารส่งถึงมือกลุ่มลูกค้าอย่างแน่นอน

ข้อมูลข่าวสารที่ถูกกระจายออกไปนั้นมีโอกาสที่จะถึงมือลูกค้ามากกว่าการกระจายข่าวสารแบบดั้งเดิม และโอกาสที่จะตกหล่นหรือสูญหายก็มีน้อยลง เพราะข้อมูลข่าวสารจะส่งตรงไปที่กลุ่มลูกค้า โดยไม่จำเป็นจะต้องมีมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้กลไกการกระจายข้อมูลข่าวสารสั้นลง และนั่นก็ช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของข้อมูลสูญหายได้เป็นอย่างดี
Mobile Marketing

4. มีการตอบรับที่ดีกว่า

เมื่อมีการกระจายข่าวสารออกไป โดยผู้ได้รับสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น รวมถึงการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด นั่นก็จะส่งผลให้เกิดการตอบรับของกลุ่มลูกค้าได้ดีกว่าแบบเดิมๆ
Mobile Marketing

5. ตรงกับตลาดเป้าหมาย

การทำการตลาดแบบ Mobile Marketing จะทำให้คุณเข้าใกล้กลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการส่งข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น เพราะคุณสามารถเลือกที่จะส่งข้อมูลข่าวสารให้กับผู้รับแต่ละประเภทที่คุณต้องการได้ อาจด้วยการแบ่งกลุ่มช่วงอายุ เพศ การศึกษา เป็นต้น
Mobile Marketing

6. เข้าถึงได้อย่างทั่วถึง

เนื่องจากปัจจุบันมีผู้ใช้มือถือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้การรับรู้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือได้รับความนิยมมากกว่าการดูโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ วิทยุ หรือผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งถ้าเกิดคุณยังทำการตลาดผ่านช่องทางเก่าๆ เหล่านี้อยู่ นั่นอาจจะทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกคนได้ แต่ถ้าคุณทำการตลาดแบบโมบายล์มาร์เก็ตติ้ง จะทำให้คุณมีโอกาสเข้าถึงลูกค้าได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
Mobile Marketing

7. โอกาสทางการโฆษณา

เมื่อกลุ่มลูกค้าสามารถรับรู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถนำไปส่งต่อให้คนอื่นได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งต่อข้อมูลผ่านทางอินเทอร์เน็ตด้วยวิธีการต่างๆ หรือจะเป็นการบอกเล่าผ่านทางการพูดคุย เพียงเท่านี้ธุรกิจของคุณก็จะเข้าสู่กระบวนการโฆษณาที่คุณไม่จำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายแล้ว
Mobile Marketing

8. เห็นผลได้จริง

ผลที่คุณจะเห็นได้อย่างชัดเจนนั้นก็คือการตอบรับ ไม่ว่าจะเป็นยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ยอดฟอลโล่ของคุณที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, twitter, Instagram คุณจะสามารถมองเห็นผลนั้นได้ทันที ซึ่งหากผลตอบรับยิ่งมีมากเท่าไหร่ โอกาสประสบความสำเร็จของคุณก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Sunday, December 16, 2018

การตลาดออนไลน์ (Marketing 4.0) ในปี 2018


การตลาดออนไลน์ (Marketing 4.0) ในปี 2017-2018 ถือเป็นปีแห่งการค้าที่ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถทำเงินได้อย่างเป็นกอบเป็นกำและสร้างตัวเองให้เป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็วเราคงเคยได้ยินก้นมาบ่อยในเรื่องของ Marketing 4.0 ซึ่งหลักๆ แล้ว การตลาดออนไลน์ เป็นส่วนหนึ่งของ Marketing 4.0 และมีความเชื่อมโยงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย เพราะการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ไม่ว่าจะเป็น Website หรือ Social Media ต่างๆ ที่มีให้บริการถือเป็นระบบฐานข้อมูลที่เป็นสารสนเทศที่ดีที่สุดโดยได้รวบรวมบุคคลหรือกลุ่มบุคคลไว้ให้ในที่ๆ เดียว จึงทำให้การทำการตลาดออนไลน์สามารถทำได้ง่าย และที่ดียิ่งไปกว่านั้นยังสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจนอีกด้วย



ช่องทางที่ได้รับความนิยมากสุดในการทำการตลาดออนไลน์ในปัจจุบันที่นิยมใช้มากสุดถึงแม้ช่องทางต่างๆ จะต้องใช้เงินในการลงทุนก็ตามจะขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้เพื่อชี้นำให้เข้าใจพอสังเขป
  • Facebook : เฟสบุ๊คถือเป็นฐานลูกค้าทั้งแบบบุคคลและแบบกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุดจึงเป็นที่นิยมที่จะทำตลาดออนไลน์โดยการนำเอาข้อมูลมาเผยแพร่หรือประชาสัมพันธ์ให้ผู้อื่นได้รับทราบและช่องทางนี้ก็ยังสามารถเผยแพร่ได้ทั้ง รูปภาพ, วีดีโอ, เนื้อหา, ตลอดจนการถ่ายทอดสด Facebook จึงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
  • Adwords : ถือเป็นช่องทางการประชาสัมพันธ์ที่ดีและได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันแต่การทำ AdWords จำเป็นต้องมีเว็บไซต์เป็นฐานในการจัดทำเพราะ Adwords จะส่งคนเข้ามาที่เว็บไซต์
  • Line : ไลน์ถือเป็นข่องทางที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งช่องทางเช่นกันเพราะไลน์ก็ได้รวบรวมข้อมูลผู้ใช้ไว้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะคนไทยไลน์จึงเป็นเป้าหมายของการทำตลาดออนไลน์ในปัจจุบันเช่นกัน
ทั้ง 3 รูปแบบของช่องทางในการทำตลาดออนไลน์ถือเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมในยุคของการตลาด 4.0 โดยนำเอาเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เพื่อเสริมสร้างการแข่งขันในการดำเนินธุรกิจแต่ทั้ง 3 รายการที่เสนอไปนั้นสิ่งที่สำคัญคือต้องใช้เงินในการลงทุนแทบทั้งสิ้นหากต้องการผลที่รวดเร็ว

บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้

Saturday, December 15, 2018

เข้าสู่ตลาดออนไลน์ ง่าย ๆ ทำได้ด้วยตนเอง


ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตส่งผลกับพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างมาก จากสถิติล่าสุดของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. พบว่า คนไทยใช้เวลากับอินเทอร์เน็ตวันละ 50.3 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ หรือคิดเป็น 7.2 ชั่วโมงต่อวัน กว่า 6.4% ของผู้ตอบแบบสอบถาม “เคยซื้อ” สินค้าออนไลน์
สถิติเหล่านี้กำลังบอกอะไร แน่นอนครับหากใครยังใช้เพียงแค่สื่อออฟไลน์ หรือสื่อแบบดั้งเดิม (Traditional Media) เช่น โทรทัศน์ วิทยุ หรือป้ายบิลบอร์ดต่าง ๆ ในการเข้าถึงลูกค้า หรือมีเพียงแค่หน้าร้าน ออนไลน์น่ากลัวมากนะครับ เพราะคนสมัยนี้นอกจากมีโลกจริงแล้ว พวกเขายังให้เวลากับโลกเสมือน หรือ Internet พอ ๆ กับการนอน ตั้ง 7.2 ชั่วโมง บางคนอาจมากกว่าเวลานอนด้วยซ้ำ ถึงเวลาแล้วครับกับการนำธุรกิจ และแบรนด์ของคุณเข้าสู่ตลาดออนไลน์
ในการทำธุรกิจออนไลน์ มีปัจจัยหรือองค์ประกอบบางข้อที่สร้างเงินเป็นกอบเป็นกำ ลองมาวิเคราะห์กันดูว่าปัจจัยไหนหรือทำอะไรกันแน่ที่สร้างกำไรจากธุรกิจออนไลน์
ขั้นตอนง่าย ๆ แค่นับ 1 2 3
ขณะที่เรามีหลากหลายทางเลือกที่จะนำเสนอว่าทำอะไรไปแล้วในการตลาด ซึ่งส่งผลมากมายหลากหลาย แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดได้บอกถึงหลักการบางข้อที่ส่งผลไม่ต่างอะไรกับหลักการขายตรงที่ถูกสอนมากว่าหลาย 10 ปี
1.ดึงคนเข้าหน้าเว็บไซต์ (Drive Traffic to your Website)
โมเดลธุรกิจหลาย ๆ ที่มักใช้จำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์ (traffic) เป็นปัจจัยสำคัญ ใครหลายคนรวมถึงผมอาจต้องประหลาดใจหากพบว่ามีกรณีศึกษามากมายที่ผสมผสานวิธีการ 1 2 หรือ 3 วิธีเพื่อกระตุ้นจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ให้มากขึ้น และเป็นเชื้อเพลิงในการทำธุรกิจต่อไป เพราะในธุรกิจออนไลน์คนเข้าเว็บไซต์ก็เหมือนคนเดินเข้าหน้าร้านออนไลน์ของคุณ แตกต่างว่าในโลกออนไลน์คุณรู้แหล่งที่มาของคนที่เข้ามาเว็บไซต์ว่า พวกเขารู้จักร้านเราผ่านช่องทางไหน
การโฆษณาด้วยการจ่ายเงินจำนวนคลิกเพื่อเข้าชมเว็บไซต์จาก google adwords (Pay Per Click) เป็นเครื่องมือที่ดึงคนเข้าเว็บไซต์ได้เร็วที่สุด หากตั้งใจทำอย่างถูกวิธี และหมั่นปรับปรุงให้ประสิทธิภาพของโฆษณาดียิ่งขึ้น (optimized) คุณ “เสกและสร้าง” คนเข้าเว็บไซต์หลักพันหลักหมื่นได้ทันที โดยต้นทุนต่ำกว่ารายได้ที่จะได้รับจากลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้า แต่ถ้าทำผิดวิธีจะเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ วิธีนี้ต้องอาศัยการเรียนรู้และศึกษา แต่ผลตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน
การปรับปรุงเนื้อหาเว็บไซต์ให้เหมาะกับหลักการทำงานของเครื่องมือการค้นหา (Search Engine Optimization : SEO) เป็นอีกปัจจัยในการดึงคนเข้าเว็บไซต์
การมีคนเข้าเว็บไซต์มาก ๆ ส่งผลต่ออันดับที่แสดงใน google search ทำให้ขึ้นไปในอันดับต้น ๆ ซึ่งการทำ content marketing เป็นปัจจัยหนึ่งในการทำ SEO วิธีนี้เหมาะสำหรับคนขยันที่จะเรียนรู้ถึงตัวเนื้อหาที่สัมพันธ์กันกับหลักการการค้นหาของ google จะส่งผลให้เข้าเว็บไซต์ของคุณ และที่สำคัญการทำ SEO ต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผลในการจัดอันดับเว็บไซต์ของ google
การทำการตลาดออนไลน์ผ่านตัวแทน (affiliate marketing) เป็นวิธีให้คนอื่นช่วยพูดถึงแนะนำสินค้าหรือบริการของคุณ และเมื่อใดก็ตามที่เขาส่งลูกค้ามาหรือมาซื้อสินค้าของคุณ เราก็จะจ่ายเงินค่าตอบแทนให้กับคนที่แนะนำลูกค้าให้ โดยเราวิเคราะห์ติดตามได้ว่าใครบ้างเป็นคนที่ส่งลูกค้ามาให้ และการจ่ายจะจ่ายต่อเมื่อเราได้ลูกค้าที่ซื้อกับเราเท่านั้น (pay per acquisition)
วิธีการที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย คือ การใช้โซเชียลมีเดียทั้งในรูปแบบการโฆษณาโปรโมตโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และการทำ content marketing บนช่องทาง social media เพื่อดึงคนเข้าเว็บไซต์ โดยช่องทางที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา facebook มาเป็นอันดับหนึ่ง
บริการสำหรับลูกค้าต้องการทำโฆษณา ติดหน้าแรก google/Facebook/IG และเรายังสามารถ รับสอน seo ขั้นพื้นฐานได้ และอยาก รับทำ seo เราก็จะจัดให้